เปิดผลสอบ “ธีธัช”ประธานบอร์ด กยท.ทุบโต๊ะอุ้ม ยันไม่ผิดลงขัน 200 ล้านตั้งบริษัทร่วมทุนยางพารา สหภาพแรงงานฯ สวนหมัด ความผิดเต็มประตู ไม่ผ่านครม. มึนสำนักนายกฯประเมินผลงานผ่านฉลุย พ่วงปรับเพิ่มเงินเดือน ตกเบิกเป็นล้าน
กรณีที่นายนที ขลิบทอง คณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย(บอร์ด กยท.) ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีนายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการ กยท. (ที่ถูกนายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่ในสำนักนายกรัฐมนตรี)ได้ไปร่วมทุนตั้งบริษัท ร่วมทุนยางพาราไทย จำกัด กับ 5 บริษัทผู้ค้ายางพาราใหญ่ ได้แก่ บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด(มหาชน) (บมจ.) , บริษัท เซาท์แลนด์รับเบอร์ จำกัด(บจก.), บมจ.ไทยฮั้วยางพารา, บจก.วงศ์บัณฑิต และ บมจ.ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์คอร์ปอเรชั่น ลงขันรายละ 200 ล้านบาท รวมทุนจดทะเบียน 1,200 ล้านบาทว่าผิดหรือไม่นั้น
แหล่งข่าวจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ได้รับแจ้งอย่างไม่เป็นทางการว่า บอร์ดกยท. ที่มี พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เป็นประธานการประชุมเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2562 ได้สรุปผลสอบว่านายธีธัชไม่มีความผิดในเรื่องดังกล่าว โดยระบุเหตุผลการไปร่วมลงทุนเป็นการปฏิบัติตามมติคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) ในขณะนั้นที่มีพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้กำกับดูแล ซึ่งในขณะนั้นราคายางลดลงค่อนข้างมาก จึงสั่งให้ตั้งกองทุนรักษาเสถียรภาพราคายาง (ลงขันองค์กรละ 200 ล้านบาท)
“เมื่อนายธีธัช ไปประชุม กนย. ก็พร้อมที่จะดำเนินตามมติ แต่บอร์ดเองก็บอกว่า ถ้าหากจะตั้งกองทุนก็ทำได้ แต่ถ้าตั้งบริษัทจะต้องขอมติ ครม.ก่อน ทั้งนี้ทางบอร์ดเองก็มีมติควรจะจัดตั้งบริษัท เพื่อจะได้ซื้อขายยางส่งออกได้ก็ควรที่จะทำควบคู่กันไปแล้วค่อยทำหนังสือชี้แจงไปที่รัฐมนตรีแล้วให้รัฐมนตรีรายงานไปที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่ว่าจังหวะนั้นมีการปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีใหม่จึงยังไม่ได้เสนอเรื่องเข้าไป”
นายธีธัช สุขสะอาด
ทั้งนี้ได้มีคำสั่งจากนายกรัฐมนตรีให้นายธีธัชไปปฏิบัติหน้าที่เจ้าหน้าที่ของรัฐประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเสียก่อน ตามกรอบอัตรากำลังชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษโดยยังไม่พ้นจากตำแหน่งเดิมจนกว่าจะมีคำสั่งเป็นประการอื่น
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า บรรยากาศประชุมบอร์ดมีการถกเถียงกันหลายประเด็น ผลสรุปคือนายธีธัชได้กระทำด้วยเจตนา รมณ์เป็นการรักษาเสถียรภาพราคายางให้ดีขึ้น ขณะเดียวกันก็ได้ทำหนังสือรายงานไปที่กระทรวงเกษตรฯแต่ยังไม่สมบูรณ์ ซึ่งจะส่งให้นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับทราบเพื่อจัดการอย่างไรต่อไป
ด้านนายจิตติน วิเศษสมบัติ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ กยท. (สร.กยท.) เผยว่า ตามพ.ร.บ.การยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 มาตรา 65 การร่วมทุนตั้งบริษัทต้องให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนที่จะดำเนินการ ไม่ใช่แค่ “รับทราบ” มองว่าความผิดในครั้งนี้เป็นความผิดส่วนตัว แต่ที่สำคัญเมื่อไปอยู่สำนักนายกฯ นายธีธัชได้รับการประเมินผลงานว่าผ่านแถมปรับเงินเดือนขึ้นด้วยมีตกเบิกกว่าล้านบาท หากมีคำสั่งให้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ที่ กยท. จะเตรียมป้ายขับไล่ทันที
นายสุนันท์ นวลพรหมสกุล รองผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย ด้านบริหาร เผยถึงผลการดำเนินงานจ่ายเงินให้เกษตรกรในโครงการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง (1,800 บาท/ไร่ ไม่เกิน 15 ไร่/ครัวเรือน) ว่า ข้อมูล ณ วันที่ 30 เมษายน 2562 จำนวนเกษตรกรที่ ธ.ก.ส.จ่ายเงินแล้วทั้งคนสวนและคนกรีดยาง จำนวน 1.2 หมื่นล้านบาท (กราฟิกประกอบ) คาดว่าจะเสร็จภายในเดือนพฤษภาคมนี้
หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับ 3,467 วันที่ 5-8 พฤษภาคม 2562