‘ข้าวเหนียว’ ดิ่งเหว

13 พ.ย. 2562 | 14:02 น.
อัปเดตล่าสุด :15 พ.ย. 2562 | 11:50 น.

วงการค้าข้าวเหนียวป่วน! แฉสนั่นกลโกงยี่ปั๊ว-ซาปั๊วเบี้ยวไม่รับซื้อข้าวราคาสูง แต่ยอมจ่ายชดเชยราคาแทน  กลับไปซื้อข้าวใหม่ราคาถูกกว่า โรงสีขาดทุนยับ ซ้ำร้ายยังถูกหยงลอยแพไม่ดูแล แต่เสียค่ากำเหน็จสุดช้ำใจ

‘ข้าวเหนียว’ ดิ่งเหว

แหล่งข่าววงการค้าข้าว เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” นับตั้งแต่ต้นฤดูกาลประมาณต้นเดือนตุลาคม ข้าวเปลือกเหนียวเกี่ยวสด ความชื้น 30% ราคาอยู่ตันละ 1.5 หมื่นบาท-1.6 หมื่นบาท โรงสีก็ได้ทยอยซื้อขายมาเรื่อย ๆ  ซึ่ง ณ วันที่ 13 พฤศจิกายน 2562 ราคาปรับลดลงมาเหลือ 1 หมื่นบาทต่อตัน เป็นราคาทิ้งดิ่งลงมา จากโรงสีเจอเกมกลของยี่ปั๊ว-ซาปั๊วที่สั่งซื้อข้าวแล้ว แต่ส่วนใหญ่ไม่รับของ ชะลอการส่งมอบ แล้วก็อาศัยซื้อของใหม่ที่ราคาถูกกว่าแทน ส่วนของเก่าที่เคยซื้อไว้ที่ตันละ 3 หมื่นบาท-4 หมื่นกว่าบาท(ข้าวสารเหนียว) นั้นไม่ให้โรงสีส่งทำให้ตลาดปั่นป่วนอย่างรุนแรง โรงสีไม่สามารถระบายออกได้ ส่งผลทำให้ขาดทุนกันระนาว

‘ข้าวเหนียว’ ดิ่งเหว

“ยี่ปั๊ว-ซาปั๊ว จะรับซื้อข้าวในราคาตันละ 2.5 หมื่นบาท-2.8 หมื่นบาท หากใครขายราคานี้ให้มาส่งได้ แต่ถ้าขายในราคาสูงไม่ให้ส่ง อย่างไรก็ดีเมื่อคำนวณเป็นข้าว 15% (ข้าวเปลือกแห้ง) ราคาข้าวก็ยังสูงกว่าราคาประกันรายได้คือ อยู่ที่ 14,000 บาทต่อตัน”

‘ข้าวเหนียว’ ดิ่งเหว

แต่ที่เลวร้ายกว่านั้นบางรายยอมจ่ายชดเชยเป็นเงิน แต่ไม่รับสินค้า ทำให้โรงสีรับภาระขาดทุน หากเป็นไปได้อยากให้กรมการค้าภายในควรเข้ามาดูแลตลาดการค้าข้าวภายในประเทศ เพราะมีการค้าขายไม่เป็นธรรมต้องเข้ามาตรวจสอบและดูแลซึ่งอาจจะส่งผลกระทบเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ส่วนผู้ประกอบการค้าข้าว หรือ "หยง" ที่ขายข้าวสารโรงสีให้กับยี่ปั๊ว-ซาปั๊ว ไม่ทำหน้าที่ที่ดี เพราะไม่ติดตามไม่ดูแลโรงสีที่เป็นลูกค้าให้ได้รับความเป็นธรรมในระบบค้าข้าวซึ่งโรงสีก็เสียค่ากำเหน็ดเป็นค่าบริการไม่ได้ทำหน้าที่นายหน้าอย่างแท้จริง และยี่ปั๊ว-ซาปั๊วบางรายก็มีหุ้นอยู่ในธุรกิจหยงจึงส่งผลทำให้เกิดปัญหาในประเทศมากมาย ซึ่งกำลังเกิดในธุรกิจค้าข้าวนี้ ในไม่ช้าคาดว่าจะกระทบกับชาวนาอย่างแน่นอน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘โรงสี-หยง’ เคลียร์ปมพิพาทข้าวเหนียวดิ่ง https://www.thansettakij.com/content/Macro_econ/414615?utm_source=homepage&utm_medium=internal_referral&utm_campaign=Macro_econ