ชาวสวนยางเคว้ง ชี้รัฐแก้ปัญหาหลงทาง

นายเรืองยศ เพ็งสกุล ประธานกลุ่มวิสาหกิจคนกรีดยางรายย่อยถ้ำพรรณรา (วคยถ.) เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ยางพาราพืช เป็นเศษฐกิจส่งออกอันดับต้นๆ ของประเทศ มาถึงวันนี้การจัดการทั้งระบบยังเป็นแค่การประชุมที่ยังสรุปทางไปไม่ได้ เพราะทิศทางการจัดการขององค์กรที่รับผิดชอบ (การยางแห่งประเทศไทย) กยท. ยังไม่มีความชัดเจน และมีอำนาจเพียงพอในการเจรจาต่อรอง ประกอบกับความไม่มั่นใจในการทำงานว่าดูที่เกษตรกรชาวสวนยางเป็นหลักหรือไหม ทำให้ราคายางวันนี้ไม่มีทิศทางที่จะสูงขึ้นตามกลไกความต้องการของตลาดจริง ประกอบกับผู้แปรรูปยางไม่มีคนงาน จากการที่หน้าด่านไม่เปิด ไม่สามารถแปรรูปยางแห้งได้ ราคายางแห้งก็ไม่ดี(ต้นทุนการแปรรูปไม่ได้)

“น้ำยางสดเกือบทั้งหมดไหลไปทางโรงงานปั่นน้ำยางข้น ซึ่งโรงงานน้ำยางข้นก็มีข้อจำกัดของการผลิตและการจัดเก็บ แน่นอนอีกไม่นานราคาน้ำยางสดถูกทุบราคาแน่ ใครละที่แก้ปัญหาได้ การยางแห่งแประเทศไทย ควรทำอะไรบ้าง เข้ามาจัดการยางให้เป็นระบบและสร้างเครื่องมือให้มีอำนาจในการจัดการยาง เริ่มต้นจาก เกษตรกรและกลุ่มเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับการยางไว้แล้ว ในแต่ละพื้นที่สาขาของการยางแห่งประเทศไทย ทำโครงการเสนอความต้องการในลักษณะ อำนวยความสะดวก,พัฒนาคุณภาพการผลิต,รวบรวมผลผลิต ของสมาชิกต้องรีบจัดการให้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนไป”

นายเรืองยศ กล่าวอีกว่า ก่อนสถานการณ์นี้ ยางคุณภาพดีมีที่ขาย ต้นทุนการผลิตและการจัดการต้องอยู่กันได้ ในเมื่อความต้องการน้ำยางสดมาก ราคาน้ำยางสดถึงมือเกษตรกรคนกรีดยางไม่ควรต่ำกว่า 40 บาทต่อกิโลกรัม หากราคาต่ำกว่านั้นควรมีเครื่องมือตัวอื่นเข้ามาช่วย เช่น แปรรูปเป็นยางแผ่นดิบหรือยางแผ่นรมควันแต่ต้องมีต้นทุนการผลิตให้เขาด้วย 4-6 บาท ให้ผู้แปรรูปอยู่ได้และได้สร้างสมดุลยาง ไว้เป็นเครื่องช่วยดึงราคาน้ำยางสดในยามที่ราคาตกต่ำมากกว่านี้

“ความต้องการน้ำยางสดมากก็จริง แต่โรงปั่นน้ำยางข้นส่วนใหญ่เป็นของกลุ่มทุนค้ากำไร ที่พร้อมกดราคายางตลอดเวลาถ้ามีโอกาส ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลหรือข่าวสารต่างๆ นำมากดราคายางได้หมด ทั้งๆที่สุดท้ายผลิตภัณท์ยางไม่ได้ลดราคาเลย กลับราคาสูงขึ้นด้วยซ้ำ สุดท้ายหากน้ำยางสดมีความต้องการมากจริงราคาถึงมือเกษตรกรคนกรีดยางต้องไม่ต่ำกว่า 40 บาท/ กก.คณะบอร์ดการยางแห่งประเทศไทย และนายกรัฐมนตรี ฝากราคาน้ำยางสด 40 บาท/กก.,ยางแผ่นดิบ 44 บาท/ กก.,ยางแผ่นรมควัน 46 บาท/กิโลกรัมอย่างไรก็อยากฝากไปถึง นายกรัฐมนตรีด้วย ให้ทำโดยไม่ต้องรอโอกาสมีแล้ว บริหารจัดการยางพาราแบบหลากหลาย พร้อมกันไปในเวลาเดียวกัน คือความยั่งยืนของเกษตรกรชาวสวนยางมั่นคงตลอดไป