นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า แม้วิกฤต COVID – 19 จะยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญต่อเศรษฐกิจการค้าทั่วโลก กรมการค้าต่างประเทศจะยังคงเดินหน้าเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ข้าวไทย ด้านการตลาดต่างประเทศ โดยทำงานใกล้ชิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่อการส่งออกข้าวไทย รวมทั้งดำเนินการร่วมกับ สคต. ทั่วโลกในการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับข้าวไทย ทั้งในด้านคุณภาพ มาตรฐาน ความปลอดภัย และคุณประโยชน์ของข้าวไทยให้แก่ผู้บริโภคทั่วโลก ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถรักษาและขยายตลาดข้าวไทยในต่างประเทศและสร้างความเชื่อมั่นแก่ลูกค้าในฐานะที่ไทยเป็นผู้ผลิตและส่งออกข้าวคุณภาพของโลกต่อไป
ทั้งนี้ในปี64 กรมได้เตรียมแผนงาน สำหรับกีระชับความสัมพันธ์กับประเทศคู่ค้า ผ่านระบบวีดีโอคอรนเฟอเรนท์ เช่น ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ จะหารือกับกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของฟิลิปปินส์ ซึ่งเป้าหมายส่งออกข้าวหอมไทย ข้าวขาวทั้งพื้นนุ่มและพื้นแข็ง และข้าวคุณลักษณะพิเศษ เนื่องจากเป็นตลาดที่ยังมีโอกาส และจะหารือกับอิรัก กับกระทรวงการค้าอิรัก เพื่อเจรจาเปิดตลาดข้าวนึ่ง ข้าวขาว และข้าวหอมมะลิ หรือในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม หารือกับกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงของญี่ปุ่น เพื่อส่งออกข้าวหอมมะลิไทย ข้าวหอมไทย และข้าวขาว หรือในช่วงเดือนตุลาคม หารือกับสมาคมผู้นำเข้าฮ่องกง เป็นต้น
ทั้งนี้กรมได้แบ่งตลาดข้าว3ตลาดที่จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องในปีนี้ คือ ตลาดพรีเมี่ยม เช่น ขาวหอมมะลิไทย100 % ข้าวหอมมะลิ ซึ่งแนวโน้มข้าวที่งสองชนิดนี้ยังไปได้ดีและตลาดยังมีความต้องการ โดยตลาดหลักของไทย เช่น ฮ่องกง สหรัฐฯ ออสเตรเลีย สิงคโปร์ ซึ่งเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง โดยไทยต้องพยายามรักษาตลาดดังกล่าวและเพิ่มส่วนแบ่งตลาดให้เพิ่มขึ้น ซึ่งปริมาณส่งออกตลาดนี้อยู่ที่35%
ตลาดข้าวทั่วไปหรือแมส มาร์เก็ต (Mass Market)เป็นตลาดที่มีการแข่งขันค่อนข้างรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องราคา เน้นเป็นข้าวขาว5% ข้าวนึ่ง ตลาดหลักๆของไทย เช่น ฟิลิปปินส์ ซึ่งต้องการข้าวขาว5% ตลาดแอฟริกา แองโกลา เบนิน เป็นต้น ที่ต้องการข้าวนึ่ง ซึ่งเป็นตลาดที่มองเรื่องราคาเป็นหลัก ดังนั้นในปีนี้ไทยจะเน้นการทำตลาดเชิงรุกให้มากขึ้นทั้งออนไลน์และออฟไลน์
และตลาดนิช มาร์เก็ต(Niche Market) หรือตลาดข้าวเฉพาะกลุ่ม เช่น ข้าวสี ข้าวคุณลักษณะพิเศษ ข้าวเหนียว ซึ่งเป็นตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจในเรื่องสุขภาพมากขึ้น ตลาดหลักๆ เช่น ยุโรป สิงคโปร์ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น งกรมมองว่าตลาดนี้ยังมีช่องทางให้เข้าไปแชร์ส่วนแบ่งตลาดได้ โดยปีที่ผ่านมาไทยส่งออกข้าวตลาดนิชมาเก็จ ปริมาณ358,779ตัน แบ่งเป็น ข้าวเหนียว ปริมาณ 276,560ตัน ข้าวกล้อง ปริมาณ 82,411 ตัน แต่เนื่องจากว่าไทยยังมีผลผลิตข้าวชนิดพิเศษไม่มากดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งส่งเสริมเกษตรกรให้ปลูกมากขึ้น ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ยังเป้าส่งออกข้าวปีนี้6 ล้านตัน