ดร.ตฤณวรรธน์ ธนิตนิธิพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านนวัตกรรมโปรไบโอติกและการดูแลสุขภาพ เปิดเผยว่าภาพรวมตลาดกลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพมูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท เติบโตต่อเนื่องไม่ต่ำกว่าปีละ 10-15% โดยเฉพาะในช่วงการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ปี 2563 ต่อเนื่องถึงปี 2564 ยิ่งทำให้ตลาดนี้เติบโต โดยปี 2563 เติบโตมากกว่า 20%
ขณะที่บริษัทมียอดขายในสินค้ากลุ่มสุขภาพเติบโต 25% จากเดิมเติบโต10-15 % โดยในปี 2561 บริษัทมีรายได้ 337 ล้านบาท จาก 5 กลุ่มธุรกิจได้แก่1. นวัตกรรมยารักษาโรค (Pharmaceutical Innovation) 2. โภชนบำบัดเพื่อการรักษาสุขภาพและชะลอวัย (Wellness & Anti-Aging Nutraceuticals) 3. เวชสำอางและนวัตกรรมความงาม (Cosmeceuticals & Aesthetic Innovation) 4. ผลิตภัณฑ์ดูแลและส่งเสริมสุขภาพของสัตว์เลี้ยง(Companion Animal Healthcare) และ 5.ผลิตภัณฑ์ดูแลและส่งเสริมสุขภาพสำหรับปศุสัตว์(Livestock Animal Healthcare)
จากการศึกษาตลาด พบว่า ผู้บริโภคทั่วโลกหันมาดูแลและรักษาสุขภาพ เพื่อไม่ให้เกิดโรคต่างๆ มากขึ้น โดยเฉพาะโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคอ้วน ที่ถือเป็นโรคกลุ่มเสี่ยงและเป็นอันตรายมาก หากติดเชื้อโควิด 19 จึงเป็นโอกาสในการทำตลาด โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม PROBAC FIT SERIES ซึ่งบริษัทได้ออกผลิตภัณฑ์โปรไบโอติกสูตรเฉพาะลดไขมันในช่องท้อง ซึ่งไขมันช่องท้องเป็นสาเหตุของการเป็นโรคต่างๆ เยอะมาก และเป็นเทรนด์ใหม่ล่าสุด ที่เพิ่งวางจำหน่าย 3 SERIES ในตลาดไปเมื่อต้นเดือนมกราคม 2564 ที่ผ่านมา ประกอบด้วย
SERIES 1 คือ PROBAC FIT ซินไบโอติก ที่มีโปรไบโอติก และพรีไบโอติก เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาไขมันในช่องท้อง มีภาวะเสี่ยงต่อการเป็น Metabolic Syndrome และผู้ที่มีภาวะอ้วนลงพุง
SERIES 2 คือ PROTEIN FIT แหล่งรวมโปรตีนจากพืช ทั้งจากถั่วเหลือง ถั่วลันเตา ข้าวกล้อง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ผู้ที่ขาดโปรตีน
SERIES 3 คือ FIBO FIT กลุ่มพรีไบโอติก ไฟเบอร์ ที่รวมสารสกัดจากธรรมชาติ 16 ชนิด เหมาะสำหรับผู้ที่ท้องผูกเรื้อรัง ผู้มีภาวะอ้วนลงพุง ซึ่งมีประโยชน์ 4B ด้วย คือ BOOST BLOCK BURN BRIGHT
ล่าสุด ได้วางจำหน่าย SERIES 4 คือ BRAVO FIT ที่จะเน้นทำตลาด เจาะเฉพาะกลุ่มผู้ชายอายุ 35 ปีขึ้นไป และมีแผนวางจำหน่าย SERIES 5 คือ WONDER FIT ที่เน้นทำตลาด เจาะเฉพาะกลุ่มผู้หญิงอายุ 35 ปีขึ้นไป ในเร็วๆนี้
อย่างไรก็ตามบริษัทได้กำหนดช่องทางการจัดจำหน่ายโดยเน้นไปที่ โรงพยาบาล ,ศูนย์สุขภาพและร้านขายยาเป็นหลัก รองลงมาคือห้างค้าปลีกสมัยใหม่(โมเดิร์นเทรด)ซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ และช่องทางออนไลน์
นอกจากนี้บริษัทยังได้จับมือกับ หัวเว่ย (HUAWEI) ทำ PROBAC FIT SERIES ซึ่งถือเป็นการทำ CO PROJECT GADGET ครั้งแรกระหว่าง หัวเว่ย และบริษัท อินเตอร์ ฟาร์มาฯ ที่นำเอานาฬิกา HUAWEI Band 4 และเครื่องชั่งน้ำหนักบลูทูธ HUAWEI Scale 3 มาไว้ในโปรแกรม ที่มีงานวิจัยทางการแพทย์รองรับว่า สามารถลดไขมันในช่องท้อง ลดรอบเอว ลดการดูดซึมน้ำตาล-ไขมันจากอาหาร ลดความเครียดได้จริง และปลอดภัย
ช่วงแรกจะทำ 2 โปรแกรม คือ 1.VIP PROBAC FIT SERIES มูลค่า 15,000 บาท 2. IP PROBAC FIT SERIES มูลค่า 7,500 บาท เจาะกลุ่มคนรักสุขภาพทั้งผู้หญิง ผู้ชาย คนที่เป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง คอเลสเตอรอลสูง กรดไหลย้อน และกลุ่มคนอ้วน ที่ต้องการลดไขมันในช่องท้อง ลดรอบเอว ควบคุมน้ำหนัก
โดยตั้งเป้ารายได้ 100 ล้านบาทภายในสิ้นปีนี้ และเพิ่มเป็น 150 ล้านบาทในปี 2565 แตะ 200 ล้านบาทในปี 2566 เบื้องต้นได้วางงบลงทุนอย่างน้อย 30 ล้านบาท
นอกเหนือจากนี้ บริษัทยังมีแผนขยายธุรกิจในรูปแบบต่างๆ เพื่อบรรลุเป้าหมาย 5 ปี (2560-2565) 2500 ล้านบาทและต่อยอดสู่การเป็นผู้นำเวชภัณฑ์มาตรฐานระดับโลก ในปี 2563 ที่ผ่านมา บริษัทได้ลงทุนขยายกิจการ ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจสุขภาพ เช่น ซื้อโรงงานผลิตยาแผนปัจจุบันและเครื่องจักร มูลค่า 160 ล้านบาท พร้อมบรรลุข้อตกลงรับจ้างผลิตยาให้แก่ “เทวา ฟาร์มา (ประเทศไทย)” ,ซื้อกิจการบริษัท โมเดิร์น ฟาร์มา จำกัด, ร่วมลงทุนกับ บริษัท ไทยยูเนี่ยน อินกรีเดียนท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)ภายใต้ชื่อ “บริษัท อินเตอร์ฟาร์มา-ซีวิต้า จำกัด”
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มอาหารเสริมและเวชสำอางที่มีส่วนผสมของกัญชงออกสู่ตลาด โดยเน้นผลิตภัณฑ์ที่สามารถจำหน่ายในโรงพยาบาลและคลิกนิกได้ ซึ่งบริษัทได้ยื่นขออนุญาตเป็นที่เรียบร้อย
ขณะเดียวกัน บริษัทได้ให้ความสำคัญกับ ผลิตภัณฑ์ดูแลและส่งเสริมสุขภาพของสัตว์เลี้ยง ซึ่งหากมีความชัดเจนเรื่องใบอนุญาตการใช้กัญชง บริษัทมีแผนที่จะออกผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงที่มีสวนผสมของกัญชง โดยปัจุบันธุรกิจกลุ่มนี้ บริษัทได้จัดจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยงภายใต้แบรนด์ มาเรีย ซึ่งโฟกัสตลาดต่างประเทศ โดยมีรายได้ 60 ล้านบาท
การรุกเข้าซื้อกิจการต่างๆ ในปีที่ผ่านมาและดิลใหม่ๆที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่างน้อย 2 ดิลในปีนี้ จะทำให้บริษัทสามารถดำเนินกิจการได้ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ สามารถผลิตยาและย้ายฐานการผลิตซึ่งปัจุบันยังต้องสั่งผลิตจากโรงงานในต่างประเทศมาผลิตในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการผลิต เพิ่มขีดความสามารถการทำกำไร ผลักดันศักยภาพในการแข่งขันให้เพิ่มสูงขึ้น ต่อยอดสู่การเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพและนวัตกรรมความงามสำหรับคนแบบครบวงจรตามแผนที่วางไว้
“เราเป็นบริษัทที่ทำครบวงจร มีทั้งยา อาหารเสริม เวชสำอาง เครื่องมือแพทย์ และโปรไบโอติก ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพครบวงจร เป็นโภชนบำบัด ที่มีข้อดี คือ ปลอดภัยเหมือนอาหาร ป้องกันและรักษาโรคเหมือนยา ซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่ของโลกที่มาแรงมากๆในขณะนี้ นอกจากนี้ยังได้รับการยอมรับจากแพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลขนาดใหญ่หลายๆ แห่งในประเทศไทยด้วย ซึ่งในเรื่องของโภชนบำบัด บริษัทฯถือเป็นผู้นำตลาด และเป็นรายแรกที่ทำ การเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ PROBAC FIT SERIES เป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำนวัตกรรมด้านไบโอติกของบริษัทอินเตอร์ ฟาร์มาฯด้วย”