นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่ กรณีศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) มีคำสั่งให้ 6 จังหวัดสีแดงเข้ม ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี ชลบุรี และเชียงใหม่ งดนั่งรับประทานอาหารในร้านและให้ซื้อกลับบ้านเท่านั้นถึงเวลา 21.00 น. เป็นเวลา 14 วัน เริ่มวันที่ 1 พ.ค.เป็นต้นไปนั้น
เชื่อว่าจะส่งผลกระทบให้ร้านอาหารใน 6 จังหวัด ยอดขายลดลงวันละ 1,000 ล้านบาท รวม 14 วัน ทำให้ยอดขายโดยรวมหายไปกว่า 14,000 ล้านบาท
ทั้งนี้บรรดาร้านอาหารอยากขอผ่อนผันไปก่อน 7 วัน เนื่องจากมีวัตถุดิบที่สต็อกไว้หรือขอให้พิจารณาเปิดให้นั่งทานในร้านที่ได้รับตรามาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (SHA) ที่ออกให้โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับกรมควบคุมโรค กรมอนามัย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข
“ตนเองได้พูดคุยกับผู้ประกอบการร้านอาหารว่า อย่าไปคัดค้านเลย เพราะ ศบค.ต้องการเห็นผลการลดจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 จึงขอไว้ 14 วันก่อน”
อย่างไรก็ตาม ได้หารือกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีฯ ให้ทางสมาคมภัตตาคารไทย ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีถึงผลกระทบที่ได้รับ รวมทั้งมาตรการที่จะทำให้รัฐบาลมั่นใจได้ว่าคนที่เข้ามาใช้บริการในร้านอาหารจะไม่ได้รับการติดเชื้อ
เพราะในที่ประชุม ศบค.มีสถิติที่กระทรวงสาธารณสุขสำรวจจากผู้ที่ติดเชื้อจำนวนมาก พบว่ามาจากการนัดพบเข้าไปรับประทานอาหารในร้านและพูดคุยกัน
โดยทางสมาคมจะทำหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ ว่า ร้านอาหารที่ได้รับตรามาตรฐาน SHA มีมาตรการดูแลสุขอนามัยอย่างดี และเมื่อครบ 14 วันแล้วจะจัดโต๊ะนั่งแบบเว้นระยะห่างและให้มีฉากกั้น เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
รวมทั้งจะให้ร้านอาหารยกระดับตัวเองเพื่อให้ได้รับตรามาตรฐาน SHA เพื่อความสบายใจและปลอดภัยของผู้มาใช้บริการ นอกจากนั้น ต้องขอให้รัฐบาลเยียวยาผู้ประกอบการร้านอาหาร ทั้งเรื่องขอเงินกู้ดอกเบี้ยผ่อนปรนและลดเงินนำส่งเข้ากองทุนประกันสังคมด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
สมาคมภัตตาคารไทยขอความร่วมมือร้านอาหารลดเวลาการนั่งในร้าน
สมาคมภัตตาคารไทย ย้ำมาตรการป้องกันโควิด-19
ร้องนายกขอความเป็นธรรมปิดสถานบันเทิงคุมโควิด ลามธุรกิจร้านอาหาร