นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ หรือ ท.ท.ช. เมื่อวานนี้ ททท.ได้เสนอที่ประชุม ขอฉีดวัคซีนประมาณ 3.5 ล้านโดส เพื่อฉีดให้บุคลากรด้านการท่องเที่ยว รองรับการเปิดรับนักท่องเที่ยวผ่านโครงการ "ภูเก็ต ทัวริสซึ่ม แซนด์บ็อกซ์" ตามโรดแมพเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว มาเที่ยวไทยไม่ต้องกักตัว ซึ่งจะเริ่มวันที่ 1 กรกฎาคม2564 จากนั้นในเดือนตุลาคม จะดำเนินโครงการในจังหวัดนำร่องอื่นๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย
นอกจากนี้ททท.อยู่ระหว่างสำรวจผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ธุรกิจทัวร์ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด มีปัญหาทางการเงินมากน้อยแค่ไหน ,รักษาการจ้างงานไว้ได้หรือไม่ โดยจะสำรวจทั้งธุรกิจที่อยู่ในระบบ และนอกระบบ คาดว่า ปลายเดือนนี้ จะทราบความชัดเจนว่า มีธุรกิจที่ปิดกิจการ ลดคน เลิกจ้างไปเท่าไหร่ ส่วนธุรกิจที่อยู่รอด ต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐอย่างไรบ้าง เพื่อนำข้อมูลไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หามาตรการที่เหมาะสมมาช่วยเหลือต่อไป
ขณะเดียวกันที่ประชุม ท.ท.ช. ยังพิจารณารายละเอียดเกี่ยวกับการจัดตั้งและรูปแบบกองทุนฟื้นฟูท่องเที่ยวไทย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ท.ท.ช.ได้อนุมัติให้จัดตั้งกองทุนฯไปแล้ว โดยจะจัดเก็บเงินค่าประกันท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่มาเที่ยวไทย 300 บาทต่อคน เพื่อนำเงินไปส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวภายในประเทศ คาดว่าจะเริ่มจัดเก็บได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565
ทั้งนี้ในปีหน้าหากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ก็คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตามเป้าหมาย 20.8 ล้านคน คาดว่า จะมีเงินเข้ากองทุน 6,240 ล้านบาท เพื่อรับมือกับวิกฤติใหม่ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต รวมทั้งนำเงินกองทุนไปบริหารจัดการ ,บูรณะและเพิ่มศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวไทย
ข่าวเกี่ยวข้อง: