นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กิจกรรมจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการสินค้าอาหารและเกษตรแปรรูปไทยกับอินเดียรูปแบบออนไลน์ (ผ่านระบบ Zoom) เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2564 ซึ่งกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศจัดขึ้น ภายใต้โครงการ DTN Business Plan Award 2020 “ชี้ช่องทางโอกาส บุกตลาดด้วย FTA” โดยได้รับความร่วมมือจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศของไทยประจำอินเดีย ทั้ง 3 แห่ง คือ กรุงนิวเดลี เมืองเจนไน และเมืองมุมไบ
กระทรวงพาณิชย์ พยายามขยายโอกาสทางการค้าให้ผู้ประกอบการไทย ในสถานการณ์โควิด จึงได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบของการจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) เป็นรูปแบบออนไลน์ ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้ ได้นำผู้ประกอบการอาหารและเกษตรแปรรูปของไทย 10 ราย ที่ชนะการแข่งขันประกวดแผนธุรกิจมาจับคู่ธุรกิจกับผู้นำเข้าอินเดียผ่านระบบออนไลน์ โดยมีผู้นำเข้าอินเดียให้ความสนใจเข้าร่วมกว่า 33 บริษัท ถือเป็นโอกาสดีที่จะนำสินค้าอาหาร เครื่องดื่ม และอาหารแปรรูปของไทย เจาะตลาดอินเดีย โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งผู้บริโภคอินเดียหลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกเคหสถาน ทำให้มีความสนใจและต้องการซื้อสินค้าประเภทอาหารและเกษตรแปรรูป อาทิ ธัญพืช น้ามันพืช เกลือ ถั่ว ขนมทานเล่น และเครื่องดื่ม ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ซึ่งเป็นที่นิยมในอินเดีย เช่น Amazon, Big Basket, Hallo Basket และ Grover มากขึ้น
ผู้ประกอบการที่ชนะการประกวดแผนธุรกิจ ได้นำผลผลิตของเกษตรกรไทย พัฒนาต่อยอดโดยใช้นวัตกรรมและการแปรรูป สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ ที่ให้ทุกหน่วยงานช่วยกันหาตลาดให้กับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน พร้อมส่งออกต่างประเทศและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้สินค้าไทย
การรุกเข้าสู่ตลาดอินเดีย ร่วมกับการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างไทยกับอินเดีย ได้แก่ FTA ไทย-อินเดีย (บังคับใช้ตั้งแต่ปี 2547) และ FTA อาเซียน-อินเดีย (บังคับใช้ตั้งแต่ปี 2553) ส่งผลให้อินเดียลด/เลิกการเก็บภาษีศุลกากรกับสินค้าส่งออกจากไทยแล้วกว่า 5,220 รายการ เช่น อาหาร ผลไม้ อาหารทะเลกระป๋อง อาหารปรุงแต่ง และผักผลไม้แปรรูป เป็นต้น จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยสามารถสร้างรายได้จากการจับคู่ธุรกิจและส่งออกไปอินเดียได้มากขึ้น และยังถือเป็นความสำเร็จของการร่วมมือกันทำงานระหว่างหน่วยงานในกระทรวงพาณิชย์
อินเดียถือเป็นตลาดที่น่าสนใจเนื่องจากมีประชากรกว่า 1,300 ล้านคน โดยในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2564 การค้าไทย-อินเดีย มีมูลค่ารวมกว่า 5,954.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (180,773.4 ล้านบาท) ขยายตัวกว่า 54% จากช่วงเดียวกันของปี 2563 โดยการส่งออกจากไทยไปอินเดียมีมูลค่า 3,280 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (99,000.7 ล้านบาท) ขยายตัวถึง 47%