จากกรณีที่ผู้ประกอบการสายการบินภายในประเทศ 7 สายการบิน ได้รวมกันยื่นข้อเสนอและขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลในการขอสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ(ซอฟต์โลน) พร้อมทั้งขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยกเว้นการจัดเก็บค่าบริการขึ้น-ลงอากาศยาน รวมถึงค่าจอด-ค่าปรับออกไปก่อน เพื่อให้สายการบินอยู่ได้ เพราะขณะนี้ประสบปัญหาเรื่องกระแสเงินสดอย่างมาก
ในส่วนของ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) คือ เรื่องการจัดเก็บค่าบริการการเดินอากาศ โดย บวท. ขอชี้แจงถึงมาตรการต่าง ๆ ที่ บวท. ได้ให้ความช่วยเหลือสายการบิน เพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามนโยบายรัฐบาล รวมถึงสถานะทางการเงินของ บวท. และแนวโน้มสถานการณ์เที่ยวบินในประเทศไทย
นายทินกร ชูวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ รักษาการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บวท. ชี้แจงถึงผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ต่อเนื่องมานับตั้งแต่ต้นปี 2563 และมีแนวโน้มการระบาดที่รุนแรงขึ้น ซึ่งทำให้ภาครัฐต้องดำเนินการเพื่อควบคุมการระบาดอย่างรัดกุม
โดยได้ออกมาตรการในการเดินทางอย่างเข้มงวด ส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารและปริมาณเที่ยวบินทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศลดลงเป็นอย่างมาก ผู้ประกอบการธุรกิจการบิน
รวมถึงหน่วยงานด้านธุรกิจการบินในประเทศ ต่างประสบปัญหาภาวะวิกฤติทางการเงิน โดยที่ผ่านมา บวท. ได้ให้ความร่วมมือภาครัฐในการให้ความช่วยเหลือสายการบินที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด -19 ตามมติคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ดังนี้
ทั้งนี้ บวท. ได้ให้ความร่วมมือในการช่วยเหลือผู้ประกอบการสายการบินอย่างเต็มกำลังความสามารถ ภายใต้สภาพคล่องที่มีอยู่อย่างจำกัด โดยปัจจุบัน บวท. เป็นหนึ่งในหน่วยงานที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง
เนื่องจากรายได้หลักของ บวท. มาจากการให้บริการการเดินอากาศ เมื่อปริมาณเที่ยวบินลดลงอย่างต่อเนื่อง รายได้จึงลดลงเช่นกัน ทั้งนี้แม้ว่า บวท. จะมีมาตรการปรับลดค่าใช้จ่ายในองค์กร ที่ไม่กระทบต่อภาคความปลอดภัยในการให้บริการแล้วก็ตาม แต่รายได้ก็ยังคงไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
จากสถิติการให้บริการจราจรทางอากาศเที่ยวบินพาณิชย์ ที่ทำการบินเข้า-ออก ผ่านน่านฟ้าไทย ตั้งแต่ ตุลาคม 2563 - มิถุนายน 2564 มีปริมาณเที่ยวบินลดลงร้อยละ 56 และหากเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวของปี 2562 ก่อนสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ปริมาณเที่ยวบินลดลงสูงถึงร้อยละ 72
จากตัวเลขดังกล่าวส่งผลให้รายได้ของ บวท. ลดลงเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ บวท. ได้คาดการณ์ปริมาณเที่ยวบินในปีงบประมาณ 2564 (ตุลาคม 2563 – กันยายน 2564) ว่าจะมีปริมาณเที่ยวบินลดลงจากปี 2563 ถึงร้อยละ 56
ทำให้ปี 2564 บวท. จะมีรายได้ต่ำกว่าค่าใช้จ่ายกว่า 6,600 ล้านบาท และจากสถานการณ์การระบาดที่ยังคงรุนแรงต่อเนื่อง บวท. คาดการณ์ว่าจะส่งผลกระทบไปถึงปี 2565 ประกอบกับสายการบินมีการชำระหนี้เฉลี่ยเพียงร้อยละ 52 ของหนี้ที่ครบกำหนดชำระ
จึงทำให้ ปัจจุบัน บวท. ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องเช่นกัน บวท. จึงไม่มีความสามารถให้ความช่วยเหลือสายการบินตามมาตรการช่วยเหลือต่อไปได้ โดย บวท. จำเป็นต้องจัดหาแหล่งเงินกู้ระยะสั้นเพิ่มเติม เพื่อเสริมสภาพคล่องในปี 2564 - 2565 ซึ่งมีอยู่อย่างจำกัด ตามกรอบแผนบริหารหนี้ที่ได้รับอนุมัติ
ทั้งนี้ ตามมติ กบร. ครั้งที่ 5/2564 เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2564 ปัจจุบัน บวท.อยู่ระหว่างรอความชัดเจนเรื่องการขอรับเงินสนับสนุนรัฐวิสาหกิจ (Public Service Obligation: PSO) เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน
ในขณะเดียวกัน บวท. ยังคงดำเนินการตามมาตรการควบคุมค่าใช้จ่าย และรักษาวินัยทางการเงินอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้