นางสาววิลาสินี ภาณุรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด อีฟ โรเช่ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากวิกฤติโควิดที่เกิดขึ้น ช่วยเร่งสปีดการดำเนินธุรกิจของอีฟ โรเช่ ที่มุ่งปรับองค์กรเข้าสู่ยุค Digital Transformation อย่างรวดเร็วขึ้น ซึ่งเข้ามาตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันที่ใช้ช่องทางออนไลน์เป็นหลักในการดำเนินชีวิตวิถีใหม่
ทั้งการทำงาน การเรียน ตลอดจนการซื้อสินค้าและบริการอีฟ โรเช่ จึงเริ่มวางแผนปรับองค์กรสู่ยุค Digital Transformation ตั้งแต่ปี 2563 โดยเริ่มตั้งแต่การใช้โซเชียลมีเดียและออนไลน์ในการสื่อสารกับผู้บริโภค จนก้าวขึ้นมาเป็นแบรนด์ที่มี Share of Voice & Share of Engagement เป็นอันดับ 1 ในกลุ่ม Beauty & Personal Care Brands
รวมทั้งได้ขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าผ่าน E-commerce, Social Commerce และ Social Selling อีกทั้งปีนี้เรายังได้พัฒนา Virtual BA ผ่านช่องทาง Telesales และ Line ของ BA เพื่อรองรับลูกค้าอีกช่องทางหนึ่ง ซึ่งสร้างผลตอบรับที่ดีมากจากลูกค้า
“ปัจจุบัน Yves Rocher Thailand ถือเป็น FMCG Personal Care Brand แรกที่ทำ Omnichannel Journey กับลูกค้าอย่างเต็มตัว ซึ่งในช่วงโควิดที่ผ่านมา บริษัทได้เร่งปรับตัวจาก Retail Only Model มาเป็น Full Omnichannel Model เพื่อรองรับกับพฤติกรรมของลูกค้าที่มีการกระโดดไปมาระหว่างออนไลน์และออฟไลน์ ทำให้ แบรนด์มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว”
ผลจากกลยุทธ์ดังกล่าว ทำให้ยอดขายในปีที่ผ่านมาของอีฟ โรเช่ ผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้นถึง 95% และในปีนี้ยังคงเติบโตต่อเนื่องที่ 105% ขณะที่ยอดขายโดยรวมของบริษัทเติบโตขึ้น 12% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยที่ตลาดรวมผลิตภัณฑ์ความงามติดลบถึง 11% ทั้งนี้หากเจาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม อีฟ โรเช่ มียอดขายเติบโตสูงกว่าตลาด 12 เท่า ส่วนผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเติบโตสูงกว่าตลาด 3 เท่า โดยเป็นการเติบโตจากฐานลูกค้าใหม่ 23% ส่วนลูกค้าเดิมมียอดขายเพิ่มขึ้น 4%
นอกจากนี้ บริษัทยังได้ปรับกลยุทธ์ด้านการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า หรือ CRM Transformation โดยมุ่ง สร้างประสบการณ์ที่ง่ายและตรงใจลูกค้ามากขึ้นผ่านระบบ Marketing Automation for Personalized CRM พร้อมเปิดตัว Beauty Club บน Line OA เพื่อให้ลูกค้าสามารถสมัครสมาชิก ตรวจสอบคะแนนและแลก Beauty Coins ได้ง่ายผ่านมือถือตลอดเวลา โดย Beauty Club เปิดตัวในเดือนมกราคม 2564 ปัจจุบันมีสมาชิกเกือบ 3 แสนราย
สำหรับกลยุทธ์การตลาดในปีนี้ อีฟ โรเช่ ยังคงมุ่งตอกย้ำภาพลักษณ์ใหม่ของแบรนด์ ซึ่งเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ความงามจากประเทศฝรั่งเศส ที่มีแบรนด์ DNA ชัดเจน ใน 4 แกนหลัก คือ Generosity (ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่) Positive Activist (จิตวิญญาณนักต่อสู้ในเชิงบวก) Rooted Entrepreneurial (หัวใจของความเป็นเจ้าของกิจการ)
และ Honest (ความซื่อสัตย์จริงใจ) โดยมี ใหม่-ดาวิกา โฮเน่ร์ เป็นพรีเซ็นเตอร์โปรดักส์ไลน์แฮร์แคร์คนแรกในประเทศ เพื่อกระตุ้นยอดขายของกลุ่ม Green Generation Millennials (คนรุ่นใหม่ที่รักสินค้าธรรมชาติและเริ่มสนใจเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม)
อีฟ โรเช่ ยังคงยึดมั่นในแบรนด์วิชั่นของผู้ก่อตั้ง ที่ต้องการให้ผู้บริโภคทุกคนได้เข้าถึงพลังจากธรรมชาติที่ส่งผลต่อความสวยและความสุขในชีวิต รวมทั้งให้ความสำคัญกับการอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างยั่งยืน และสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด ซึ่งในปลายปีนี้เราจะตอกย้ำ Brand ID ที่ว่า #InLoveWithNature ผ่านแคมเปญ “ACTS OF LOVE” เพื่อสื่อสารถึงจุดยืนของอีฟ โรเช่ที่มีต่อโลกใบนี้