บุฟเฟ่ต์แซลมอนชื่อดัง ล่องหนทิ้งลูกค้า-พนักงาน ลือหนีไปต่างประเทศแล้ว

18 มิ.ย. 2565 | 12:26 น.
อัปเดตล่าสุด :20 มิ.ย. 2565 | 17:53 น.

แชร์โพสต์ “บุฟเฟ่ต์แซลมอน”ชื่อดัง ปิดเพจหนี ล่องหนทิ้งลูกค้า ลอยแพพนักงาน นักลงทุน ลือสนั่นขนเงินหนีไปต่างประเทศ

หลังจากเฟซบุ๊กกลุ่มคนรักบุฟเฟ่ต์ Buffet Lovers แชร์และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับร้านบุฟเฟต์แซลม่อนชื่อดังที่ก่อนหน้าเปิดขายวอยเชอร์บุฟเฟ่ต์ในราคาหัวละ 199 บาท สร้างความฮือฮาจนได้มีลูกค้าแห่เข้าไปจองซื้อจำนวนมาก ล่าสุดพบว่าได้ปิดเพจหายไปเฉยๆ

 

ต่อมาผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งระบุเป็นนักลงทุนของร้านซูชิชื่อดัง โพสต์ระบุว่าขออนุญาตชี้แจงเรื่องร้านที่ได้ซื้อแฟรนไชส์มาทั้งหมด 6 สาขา ซึ่งในขณะนี้ตัวเองและเจ้าของสาขาต่างๆ อีกกว่า 10 สาขา ซึ่งเป็นผู้เสียหายได้รวมตัวกันรวบรวมหลักฐานทั้งหมด เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัทและผู้บริหาร

 

ทั้งนี้ตนและผู้เสียหายที่ลงทุนซื้อแฟรนไชส์ได้ทำการลงเงินเพื่อเปิดสาขา มีบริษัทเป็นผู้บริหารจัดการและเป็นคนดูแลบัญชีรายรับรายจ่ายทั้งหมดเเต่เพียงผู้เดียว และจะปันผลเป็นรายเดือนให้กับผู้ลงทุน การจัดโปรโมชั่นต่างๆ เป็นการดำเนินการโดยผู้บริหารบริษัท ซึ่งผู้ลงทุนไม่มีส่วนในการบริหารจัดการ ณ เวลานี้ทางกลุ่มผู้ลงทุนพยายามติดต่อผู้บริหารบริษัท เพื่อรอฟังคำชี้แจง

 

ล่าสุด มีผู้โพสต์ข้อความรายหนึ่งระบุว่า เป็นหนึ่งในผู้จัดการสาขา ของร้านบุฟเฟ่ต์ชื่อดัง โดยระบุว่า

 

จากหลายๆความคิดเห็นในโซเชียล มีการพาดพิงถึงพนักงาน ร้าน… เราคือหนึ่งในผู้จัดการสาขา ขออธิบายแบบนี้นะคะ พนักงาน รวมถึง เจ้าของแฟรนไชส์ทุกท่าน ไม่มีการทราบมาก่อนจริงๆ ว่าจะเกิดเหตุการแบบนี้ พวกเราเพิ่งมารู้ในเช้าวันที่17 หลังจากเจ้าของบริษัทได้ดีดตัวเอง ออกจากไลน์กรุ๊ปทั้งหมด และไม่มีใครสามารถติดต่อเขาได้

บุฟเฟ่ต์แซลมอนชื่อดัง ล่องหนทิ้งลูกค้า-พนักงาน ลือหนีไปต่างประเทศแล้ว

เราจึงมีการปรึกษากันในกลุ่มผู้จัดการว่าจะแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้ายังไง จึงได้ฉันทามติร่วมกันว่า ปิดให้บริการ1วัน เพราะยังมีความหวังว่าจะสามารถติดต่อเจ้าของบริษัทได้ค่ะ (จนถึงนาทีนี้ก็ยังหวังอยู่แม้จะรู้ว่าริบหรี่เหลือเกิน)

 

ลูกค้าหลายๆท่าน กระหน่ำโทรเข้าสอบถามสาเหตุจากพนักงาน "ระบบส่วนกลางล่ม" จึงกลายเป็นคำตอบที่พวกเราคิดขึ้นได้ ขณะนั้นค่ะ

 

เพราะพวกเราก็ยังไม่รู้ว่าจะให้คำตอบกับลูกค้ายังไงดี ถ้าจะบอกว่าเพราะติดต่อเจ้าของบริษัทไม่ได้ แล้วถ้าอยู่ๆเขาโผล่กลับมาดำเนินกิจการต่อ ก็กลัวจะมีปัญหาต่อหน้าที่การงาน

 

ขอยืนยันว่า ทั้งตัวพนักงาน และ หุ้นส่วนสาขาแฟรนไชส์ทุกท่าน พวกเราไม่มีส่วนรู้เห็น หรือวางแผนกันมาก่อน วันที่16 เรายังเปิดร้านรับลูกค้าตามปกติ ไม่มีสัญญาณเตือนใดๆค่ะ

 

ที่ตั้งข้อสังเกตุว่าทุกสาขาพร้อมใจกันปิด นั่นเป็นการตัดสินใจเฉพาะหน้าของพวกเรา เนื่องจากทรงซัพพลายเออร์ ไม่ส่งวัตถุดิบให้สาขา เพราะทางบริษัท... ยังมียอดหนี้เก่าติดค้างอยู่ ไม่มีวัตถุดิบ แล้วจะเปิดร้านยังไง

 

ที่ตั้งข้อสังเกตุว่า ป่านนี้ ทำไมพนักงานยังเงียบอยู่  แล้วขอถามกลับว่า ถ้าพวกคุณมาอยู่ในสถานะพนักงานอย่างพวกเรา จะทำอะไรได้บ้าง ตอนนี้ พวกเรากำลังตั้งหลัก รวบรวมสติ ว่าจะเอาอย่างไรกันต่อ แต่ก็รู้ๆกันอยู่ว่า คงทำอะไรมากไม่ได้ไปกว่าการฟ้องกรมแรงงาน รับเงินเยียวยาอันน้อยนิดจากประกันสังคม  หรือมันมีวิธีที่ดีกว่านี้ไหมคะ

 

ถ้าใครมีความรู้เรื่องสิทธิแรงงาน ขอความเมตตา ชี้แนะพวกเราด้วย มีทั้งแรงงานคนไทย และ ต่างชาติค่ะโดยเฉพาะแรงงานต่างชาติยิ่งน่าเห็นใจเป็นอย่างมาก เพราะทุกคนได้ยื่นเรื่อง และ เสียเงินดำเนินการเรื่องการทำเอกสารไปแล้วครึ่งทาง แล้วโดนเทกลางอากาศ

 

พวกเขาจะเอาอะไรกิน คำถามนี้ดังในหัวตลอดเวลา เพราะเราเป็นผู้จัดการสาขา คลุกคลีอยู่กับพนักงาน มันมีความผูกพันธ์กันมาก มันเจ็บปวดมากค่ะ ตอนเรียกประชุม และต้องแจ้งข่าวร้ายกับพวกเขา พิมพ์ไปร้องไห้ไป

 

บริษัทนี้ ไม่มีทีมบริหาร ไม่มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคล บัญชี หรืออะไรเลยค่ะ (หรืออาจจะมี อยู่มา3ปี ไม่เคยเห็น ไม่เคยได้ประสานงาน ทุกอย่างทำเองหมด) อำนาจบริหาร การตัดสินใจทั้งหมด อยู่ที่ตัวเจ้าของ บริษัทแต่เพียงผู้เดียว พอเจ้าของบริษัทหายไป มันจึงล้มทั้งระบบ

 

ลูกค้าท่านไหนที่ซื้อคูปองไว้ แล้วรู้สึกกังวลว่าจะโดนฉ้อโกง ท่านสามารถไปแจ้งความได้เลย ตามดุลยพินิจนะคะ ไม่ต้องพยายาม โทรเข้าเบอร์สาขา เพราะ พนักงานก็ไม่มีคำตอบให้แม้แต่อนาคตตัวเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ดิฉันก็ขอกราบขอบพระคุณ ลูกค้าทุกท่าน ที่เคยมาใช้บริการร้านดารุมะซูชิ เพราะพวกท่านเราจึง มีงานทำ มีเงินเดือนใช้มาตลอด

 

ไม่นึกไม่ฝันจริงๆค่ะ ว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ทั้งเสียใจ ทั้งสงสารลูกน้อง ทั้งควรจะสงสารตัวเองก่อนดีไหม สับสนไปหมด ขออนุญาตเพิ่มเติม  อยากฝากถึงเจ้าของบริษัท ที่ดิฉันเรียกเขาว่าBossนะคะ

 

ถ้าBossได้เข้ามาอ่าน ก็อยากให้กลับมาเผชิญความจริงแก้ปัญหา หนูเชื่อว่าเรื่องนี้ มันยังพอมีทางออกที่ดีกว่านี้สำหรับทุกคน หนูยังไม่ลืมตอนที่ตกงานในวิกฤติโควิด รอบแรก โซซัดโซเซ มาอยู่กับ ....  Boss ก็อ้าแขนรับไว้ และเป็นเจ้านายที่ ดีมากๆ

 

หนูรู้ว่าบริษัทเราไม่ได้มีกำไร Boss พูดเสมอว่าสู้ต่อเพื่อลูกน้อง เพื่อให้มีการจ้างงาน จนถึงวันนี้ นึกถึงBoss มันยังไม่มีความโกรธเกลียดเลยค่ะ ยังรักอยู่เหมือนเดิม

 

อย่างไรก็ดี ล่าสุดในโลกออนไลน์ต่างแชร์สนั่นว่า เจ้าของกิจการบุฟเฟ่ต์แซลมอนชื่อดัง ได้หนีออกไปยังดูไบ ตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย. ที่ผ่านมา