ศ.พิเศษ วิชา มหาคุณ ประธานมูลนิธิต่อต้านทุจริต และคณะบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ปาฐกถาพิเศษเรื่องแนวทางป้องกันการทุจริตจัดซื้อจัดจ้างโครงการเมกะโปรเจ็กต์ ในงานสัมมนา The BIG Issue 2022 ความโปร่งใสในการประมูลงานรัฐกับอนาคตประเทศไทย จัดโดย ฐานเศรษฐกิจ ร่วมกับ สถาบันสัญญาธรรมศักดิ์ เพื่อประชาธิปไตย
ศ.พิเศษ วิชา กล่าวว่า การแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันในปัจจุบัน ต้องใช้หลายวิธีในการป้องกันการทุจริต คงจะใช้กลไกอะไรเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ อย่างเช่นในตอนนี้มีเรื่องของข้อตกลงคุณธรรม หรือ Integrity Pact (IP) เป็นเครื่องมือหนึ่งในการป้องกันก็ยังไม่พอ เพราะสำคัญ คือต้องประเมินตัวเองว่าผิดพลาดหรือมีจุดบกพร่องตรงไหนแล้วจะแก้ไขอย่างไร
ทั้งนี้ในการแก้ปัญหาเรื่องการทุจริต ที่ผ่านมา องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International : TI) ได้ระบุว่า ปัจจุบันไม่มีคำมั่นใดที่สามารถเปลี่ยนโลกได้ในชั่วเวลาข้ามคืน เพราะการจะเปลี่ยนแปลงจากที่เคยมีปัญหาทุจริตหมักหมมมานานเป็นร้อย ๆ ปี แล้วจะทำให้กลายเป็นบริสุทธิ์โปร่งใส มีการเปิดเผยข้อมูลทันทีคงเป็นไปได้ยาก และสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ ประเทศไทยอยู่ในระบบอุปถัมภ์มายาวนาน
จากปัญหาด้านการอุปถัมภ์ ก็ส่งผลต่อการคัดเลือกโครงการรัฐที่มีมูลค่าตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งจะเข้าสู่การเป็นหนึ่งในข้อตกลงคุณธรรมเกิดปัญหาว่า ไม่มีใครกล้าเลือก หรือถูกห้ามไม่ให้เข้ามายุ่งกับโครงการ ดังนั้นปัญหาเรื่องของการทุจริต จึงไม่สามารถแก้ไขให้เสร็จสิ้นลงได้ในทันที
ศ.พิเศษ วิชา ระบุว่า อะไรก็ตามถ้าไม่มีความตั้งใจจริงในการแก้ไขปัญหา แล้วเข้ามาร่วมมือกัน หรือเห็นปัญหาตรงกัน โดยเฉพาะระบบความโปร่งใส การเปิดเผยข้อมูล และตรวจสอบได้ ก็ไม่สามารถจะแก้ปัญหานี้ได้ ดังนั้นในการแก้ปัญหาอย่างหนึ่งที่ทั่วโลกหยิบมาใช้เป็นโมเดล คือการปราบปรามทุจริตคอร์รัปชันของสิงคโปร์ ซึ่งใช้รูปแบบการเปิดให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับการดำเนินโครงการรัฐทั้งหมด ซึ่งบางประเทศในยุโรปได้หยิบไปปรับใช้แล้ว
“วิธีที่ดีที่สามารถช่วยปราบปรามทุจริตได้ คือ ประชาชนต้องตรวจสอบรัฐได้เท่า ๆ กับรัฐตรวจสอบรัฐด้วยกันเอง ซึ่งกระบวนการนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ผู้ตรวจสอบมากมาย โดยในเวทีระหว่างประเทศมีคนเขาถามไทยว่า การแก้ปัญหาทุจริตปราบปรามคอร์รัปชัน จะเริ่มทำได้เมื่อไหร่ ผมคิดว่าไม่ใช่แค่ผมจะเกษียณก่อน แต่พระเจ้ายังร้องไห้สะอื้นเลย เพราะไม่รู้เหมือนกันว่าจะแก้ได้เมื่อไหร่” ศ.พิเศษ วิชา ระบุ
ประธานมูลนิธิต่อต้านทุจริต ยอมรับว่า ที่ผ่านมามีผู้ที่คิดเครื่องมือของข้อตกลงคุณธรรมขึ้นมา ระบุว่า ต้องการให้ถึงจุดสิ้นสุดของกระบวนการทุจริต หลุดพ้นจากกระบวนการคอรัปชั่นอย่างเด็ดขาด และขอให้เร่งสร้างรากฐานของความสุจริต ปราศจากการทุจริต แต่ปรากฏว่าหลาย ๆ ประเทศที่ยังไปไม่ถึงสิ่งเหล่านี้มักจะสร้างอนุสรณ์สถานแห่งการคอร์รัปชันเอาไว้ เช่น ประเทศไทยที่มีทางยกระดับทิ้งเอาไว้เป็นอนุสรณ์สถาน
อย่างไรก็ตามผู้ที่คิดค้นระบบนี้ได้ออกมาเตือนว่า กระบวนการที่ทุกประเทศต้องสร้างข้อตกลงคุณธรรมขึ้นมา ต้องขยายขอบเขตไปถึงหน่วยงานในระดับท้องถิ่น เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของชุมชน เพื่อสร้างชุมชนปกครองตนเองที่ปราศจากการทุจริตคอร์รัปชัน ไม่มีการให้และรับสินบนเกิดขึ้นเป็นอันขาด และทำให้เกิดสัญลักษณ์ในการร่วมมือร่วมใจเกิดเป็น “คำปฏิญาณคุณธรรม”
อย่างไรก็ตามขอเสนอว่า หน่วยงานต่าง ๆ โดยเฉพาะสถาบันสัญญาธรรมศักดิ์ เพื่อประชาธิปไตย ต้องสร้างกลไกเหล่านี้ขึ้นมาให้ได้ เพื่อสร้างความโปร่งใสตรวจสอบได้ในทุกชุมชน ต้องผลักดันให้เกิดคำปฏิญาณคุณธรรม ในชุมชนให้เกิดขึ้นได้ ขณะเดียวกันยังขอให้ฐานเศรษฐกิจ เป็นสื่อหนึ่งที่เข้ามาร่วมมือในการนำเสนอเรื่องต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศด้วย
นอกจากนี้ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องเร่งผลักดัน “กรีน คอร์รัปชัน” ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันมากที่สุด เช่น การตัดไม้ทำลายป่า การยึดครองแผ่นดินสาธารณะประโยชน์ การบุกรุกที่ดิน การเผาป่า และการทำลายสิ่งแวดล้อม ถือเป็นวาระใหญ่ของโลก ถ้าไทยไม่เร่งแก้เรื่องนี้ เชื่อว่า ต่อไปประเทศไทยคงจะเหลือแต่ซากอย่างแน่นอน