"เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ คอมเพล็กซ์" ใกล้เป็นจริง รัฐเปิดรับฟังความเห็น

04 ส.ค. 2567 | 01:24 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ส.ค. 2567 | 14:08 น.

รัฐบาล เดินหน้าเปิดรับฟังความเห็น ร่างพ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... ตั้งเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ คอมเพล็กซ์ ออกใบอนุญาตเปิด “กาสิโนถูกกฎหมาย”  ทุนจดทะเบียน 1 หมื่นล้าน ระยะเวลา 30 ปี หวังกระตุ้นท่องเที่ยว-เศรษฐกิจ

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) กระทรวงการคลัง เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... หรือ “เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ คอมเพล็กซ์ ระหว่างวันที่ 2-18 สิงหาคม 2567  เพื่อเป็นสถานที่สำหรับประกอบธุรกิจบันเทิงที่มีองค์ประกอบของธุรกิจหลากหลายประเภทรวมกัน เช่น โรงแรม ศูนย์การประชุม ศูนย์การจัดแสดงสินค้า ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล ธนาคาร สวนสนุก สนามกีฬา เป็นต้น ร่วมกับกาสิโน โดยมุ่งหวังให้เป็นกลไกสำคัญในการกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศ

ร่างกฎหมายฉบับนี้มีสาระสำคัญในการกำหนดให้มีสถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งประกอบด้วยธุรกิจสถานบันเทิงอย่างน้อย 4 ประเภทร่วมกับกาสิโน โดยต้องตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ที่กำหนด และดำเนินการโดยบริษัทที่จดทะเบียนในไทยซึ่งมีทุนชำระแล้วไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท

กฎหมายฉบับนี้จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อกำหนดนโยบายและกำกับดูแลการดำเนินงาน รวมถึงจัดตั้งสำนักงานกำกับการประกอบสถานบันเทิงครบวงจรเพื่อทำหน้าที่ในการกำกับดูแลและบังคับใช้กฎหมาย

ใบอนุญาตประกอบธุรกิจจะมีอายุ 30 ปี โดยสามารถต่ออายุได้คราวละไม่เกิน 10 ปี ทั้งนี้ผู้ประกอบการจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดอย่างเคร่งครัด รวมถึงการห้ามโฆษณาหรือเชิญชวนเกี่ยวกับกาสิโน

รัฐคาดหวังว่ากฎหมายฉบับนี้จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรม Fun Economy ซึ่งมีศักยภาพในการเติบโตสูง อีกทั้งยังเป็นการนำธุรกิจกาสิโนเข้าสู่ระบบที่ถูกกฎหมาย ทำให้รัฐสามารถจัดเก็บภาษีและกำกับดูแลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตาม การเปิดให้มีสถานบันเทิงครบวงจรและกาสิโนยังคงเป็นประเด็นที่มีความอ่อนไหวในสังคมไทย จึงต้องติดตามผลการรับฟังความคิดเห็นและการพิจารณาของภาครัฐต่อไป

สภาพปัญหาและสาเหตุของปัญหาการจัดตั้งสถานบันเทิงครบวงจร:

สศค.ระบุว่า เนื่องจากประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวและสถานบันเทิงหลากหลายประเภทไว้บริการนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศที่สามารถสร้างงานและสร้างรายได้แก่ประเทศเป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ดี การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงยังคงถูกควบคุมด้วยกฎเกณฑ์ทางกฎหมายและกฎหมายที่ว่าด้วยความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของบ้านเมืองและประชาชน

นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย โดยเฉพาะสถานบริการและสถานบันเทิง ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากมาตรการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ส่งผลให้รายได้ของประชาชนที่ประกอบอาชีพอยู่ในภาคบริการ และรายได้จากนักท่องเที่ยวในภาพรวมของประเทศลดลงเป็นจำนวนมาก และเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มผ่อนคลายลงจึงเป็นช่วงเวลาอันดีที่จะพิจารณากลไกมาตรการต่าง ๆ เพื่อเร่งฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมกลุ่ม Fun Economy ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมตั้งแต่การท่องเที่ยว กีฬา สถานบันเทิง ธุรกิจ และการประชุมสัมมนาหรือไมซ์ (MICE) ทั้งยังเป็นอุตสาหกรรมที่ประเทศไทยมีศักยภาพในการต่อยอด

หนึ่งในแนวทางที่ดำเนินการได้ คือ การสร้างสถานบันเทิงครบวงจร เพื่อเป็นสถานที่สำหรับประกอบธุรกิจบันเทิงที่มีองค์ประกอบของธุรกิจหลากหลายประเภทรวมกัน เช่น โรงแรม ศูนย์การประชุม ศูนย์การจัดแสดงสินค้า ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล ธนาคาร สวนสนุก สนามกีฬา เป็นต้น ร่วมกับกาสิโน

ทั้งนี้เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่และสร้างรายได้ให้กับประชาชนและประเทศ และเป็นการทำให้ธุรกิจกาสิโนเข้ามาอยู่ในระบบการบริหารจัดการที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะทำให้ภาครัฐสามารถกำกับดูแลและจัดเก็บภาษีจากสถานบันเทิงครบวงจรดังกล่าวเพื่อเป็นรายได้ของประเทศได้

การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรมีกฎหมายรองรับการดำเนินการ มีมาตรการเพื่อกำกับดูแลผู้ประกอบการ (นักลงทุน) แรงงาน ผู้เล่นทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ และมีมาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบที่ประชาชนอาจได้รับจากการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร รวมไปถึงการขยายตัวของนักท่องเที่ยวในอุตสาหกรรมกลุ่ม Fun Economy ซึ่งสร้างรายได้ให้ประชาชนและผู้ประกอบการ และส่งผลให้ภาครัฐสามารถจัดเก็บภาษีได้มากขึ้น

ที่มา: การรับฟังความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ....