“ขัตติยา อินทรวิชัย” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารกสิกรไทยให้ความสำคัญกับดำเนินธุรกิจควบคู่กับการส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ โดยส่วนหนึ่งที่เป็นหัวใจสำคัญ คือการส่งเสริมการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาช่วยยกระดับบริการในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะบริการด้านสุขภาพ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนไทยสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์อย่างเท่าเทียม
เช่น การสนับสนุนงบ 33.6 ล้านบาท สร้างหอผู้ป่วยวิกฤตศัลยกรรมหัวใจฯ พร้อมครุภัณฑ์ทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลสระบุรี พร้อมจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ รองรับการผ่าตัดหัวใจแบบเปิด-ผ่าตัดลิ้นหัวใจ เพื่อเพิ่มศักยภาพการผ่าตัดผู้ป่วยเกี่ยวกับโรคทางหัวใจในพื้นที่จังหวัดสระบุรีและใกล้เคียง
เป้าหมายของธนาคารกสิกรไทย คือการช่วยเสริมสร้างระบบนิเวศด้านสุขภาพของไทยให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา ได้ร่วมพัฒนาดิจิทัลเฮลท์แคร์แพลตฟอร์ม เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการด้านสุขภาพให้แก่โรงเรียนแพทย์และโรงพยาบาลภาครัฐขนาดใหญ่ต่างๆ รวมทั้งการพัฒนาแอปพลิเคชัน “หมอพร้อม” ของกระทรวงสาธารณสุข และ “หมอ กทม.” ของกรุงเทพมหานคร
“รวี อ่างทอง” ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายบูรณาการความยั่งยืนองค์การ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า กสิกรไทยจะมีงบในการบริจาคแต่ละปี เพื่อสนับสนุนความเข้มแข็งของสังคมไทย ทั้งทางด้านการสาธารณสุข ศิลปะวัฒนธรรม การศึกษา การพัฒนาศักยภาพเยาวชนเด็ก สิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างให้เกิดประโยชน์ในภาพรวม โดยกระจายงบช่วยเหลือตามความจำเป็นและความต้องการในแต่ละปี
“การที่เราบริจาคเงินแต่ละอย่างคือ การสร้างสังคมให้เข้มแข็งขึ้นทำให้สังคมยั่งยีน สุขภาพ ก็เป็นปัจจัยพื้นฐานของสังคม ศิลปะวัฒนธรรม ก็ทำให้วัฒนธรรมของประเทศอยู่อย่างยั่งยืน การสนับสนุนความต้องการของแต่ละโรงพยาบาลก็เช่นกัน เป็นการทำให้ระบบสาธารณสุขของไทยยั่งยืนมากขึ้น”
ส่วนโครงการที่น่าน กสิกรไทยดำเนินงานหลายๆ โครงการที่น่าน ไม่ว่าจะเป็น น่านเพาะพันธุ์ปัญญา รักป่าน่าน หรือน่านแซนด์บ็อกซ์ เพราะต้องการสร้างให้เป็นโมเดลในการบริหารจัดการ และนำมาต่อยอดไปยังจังหวัดอื่นๆ ต่อไป
หน้า 18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,854 วันที่ 19 - 21 มกราคม พ.ศ. 2566