นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยสถิติการใช้สิทธิประโยชน์สำหรับการส่งออกภายใต้ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป หรือ GSP ที่ไทยได้รับในปัจจุบัน ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ และกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช มีมูลค่ารวม 496.71 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนการใช้สิทธิฯ สูงถึง 52.36%
โดยตลาดที่ไทยมีการใช้สิทธิ GSP ส่งออกมากที่สุดเป็นอันดับ 1 คือสหรัฐฯ ซึ่งมีมูลค่า 457.82 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วน 91.61% ของมูลค่าการส่งออกรวมที่ใช้สิทธิ GSP
สำหรับการใช้สิทธิ GSP ในการส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ สินค้าครองแชมป์อันดับ 1 ยังคงเป็นส่วนประกอบของเครื่องปรับอากาศ แต่สินค้าที่มีความโดดเด่นและน่าจับตามองไม่แพ้กัน คือเลนส์แว่นตา ซึ่งมีมูลค่าการใช้สิทธิฯ 19.95 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัวสูงถึง 132.95% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยสหรัฐฯ มีการนำเข้าเลนส์แว่นตาจากไทยมากเป็นลำดับที่ 2 รองจากเม็กซิโก
อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับประเทศที่ได้รับสิทธิฯ จากสหรัฐฯ ด้วยกันเองแล้ว พบว่าสหรัฐฯ มีการนำเข้าเลนส์แว่นตาจากไทยมากเป็นอันดับ 1 และนอกจากนี้ยังมีสินค้าสำคัญที่มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ สูงอื่นๆ อีก อาทิ อาหารปรุงแต่ง ถุงมือยาง กรดมะนาว หรือกรดซิทริก เป็นต้น
สำหรับโครงการ GSP อื่นๆ ที่มีมูลค่าการใช้สิทธิสูง อาทิ ของผสมของสารที่มีกลิ่นหอมชนิดที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารหรือเครื่องดื่ม (สวิตเซอร์แลนด์) เพชรพลอยรูปพรรณทำด้วยโลหะมีค่าอื่นๆ (สวิตเซอร์แลนด์) กระเป๋าเดินทางด้านนอกเป็นแผ่นพลาสติกหรือวัตถุทอ (สวิตเซอร์แลนด์) อาหารปรุงแต่งอื่นๆ ข้าวโพดหวาน (นอร์เวย์) และสูทของสตรีหรือเด็กหญิงทำด้วยขนแกะหรือขนละเอียดของสัตว์ (นอร์เวย์) เป็นต้น