นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงการเลือกประธานสภาระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทยที่ยังไม่ลงตัวว่า ในส่วนของภาคเอกชนมองว่าในระยะสั้นไม่ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออก เพราะแม้ว่าจะมีความขัดแย้งแต่การค้าก็ยังคงเดินหน้าต่อเหมือนกับที่ผ่าน ๆ มา ซึ่งการเมืองมีความขัดแย้ง แต่การส่งออกยังคงเดินหน้าต่อ
แต่ในระยะกลาง และระยะยาว เอกชนเองก็อยากเห็นความสมานฉันท์และมีการตั้งรัฐบาลโดยเร็ว การกำหนดนโยบายที่ชัดเจน เพราะปีหน้าน่าห่วงมากเพราะจะเกิดเอลนีโญที่ส่งผลต่อภาคเกษตร เพราะไทยเป็นหนึ่งในประเทศส่งออกเกษตรอาหารของโลก
“ตอนนี้ภาคเอกชนอยากเห็นการตั้งรัฐบาลโดยเร็วและมีความสมานฉันท์ที่มีเอกภาพทั้งนโยบายที่สอดคล้องกับนโยบายพรรคส่วนเรื่องงบประมาณนั้นอยากให้มองประชาชนเป็นศูนย์กลางทำเพื่อชาติได้ปประโยชน์สูงสุด”
สอดคล้องกับ นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า การเลือกประธานสภา มีกรอบระยะเวลาที่ล็อกไว้ชัดเจนอยู่แล้ว ซึ่งก็เหมือนกับการเลือกตั้งที่มีขั้นตอนการรับรอง ส.ส. ดังนั้นประธานสภาเองก็เหมือนกันมีเงื่อนไขเรื่องเวลาเช่นกัน คงไม่ยืดเยื้อและไปกระทบกับกรอบเวลา
ส่วนจะกระทบกับการค้าของภาคเอกชนหรือไม่นั้น คิดว่าไม่กระทบ ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดคือที่ภาคเอกชนอยากเห็นคือการจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว ส่วนเรื่องงบประมาณต้องดูว่าอำนาจการตัดสินใจอยู่ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือรัฐสภา ต้องไปดูข้อกฎหมาย ขอไม่ออกความเห็นในเรื่องดังกล่าว