สมุนไพรไทยยังรุ่ง "พาณิชย์"พาบุกตลาดเอเชียหวังดันเป็นSoft Power

03 ก.ค. 2566 | 09:46 น.
อัปเดตล่าสุด :03 ก.ค. 2566 | 09:54 น.

พาณิชย์ ดันสมุนไพรไทยหวังสร้าง Soft Power ให้เป็นที่นิยมไกลไปต่างประเทศ  ชี้ จีน สิงคโปร์ เวียดนาม มาเลเซีย อินเดียสนใจ ตั้งเป้าหมายสร้างจุดขายให้สมุนไพรไทยโดดเด่น พร้อมประกาศศักยภาพสมุนไพรไทย

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่าข้อมูลการจดทะเบียนของกรมฯ (ณ วันที่ 9 มิ.ย.66) พบว่า มีธุรกิจผลิตและแปรรูปสมุนไพรที่จดทะเบียนนิติบุคคลจำนวน 1,000 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียนรวม 7,600 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่จัดตั้งในรูปแบบบริษัทจำนวน 891 ราย คิดเป็น89.10๔ ของธุรกิจในกลุ่มนี้ และในปี 2565 มีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มขึ้นจากสถิติจดทะเบียนธุรกิจตั้งใหม่ที่มีจำนวน 214 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2564 จำนวน 74 ราย คิดเป็น49.65%

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

 ดังนั้นกรมได้เล็งเห็นโอกาสและศักยภาพของสมุนไพรไทย จึงมีโครงการส่งเสริมภาพลักษณ์และการตลาดผลิตภัณฑ์สมุนไพร มุ่งสร้างผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์สมุนไพรให้สามารถเติบโตและขยายตลาดไปต่างประเทศได้ ผ่าน 3 กิจกรรมหลัก

เริ่มจากรับสมัครและคัดเลือกผู้ประกอบการฯ มากกว่า 100 ราย ที่ผลิตภัณฑ์มีความพร้อมด้านประโยชน์หรือสรรพคุณของสมุนไพร มาตรฐานผลิตภัณฑ์ และการตลาด จากนั้นบ่มเพาะความรู้ให้ทันโลกการค้ายุคใหม่ ชี้ให้เห็นโอกาสทางการตลาด ความสำคัญของกฎระเบียบและมาตรฐานเพิ่มความน่าเชื่อถือแก่ผลิตภัณฑ์ พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค

สมุนไพรไทยยังรุ่ง \"พาณิชย์\"พาบุกตลาดเอเชียหวังดันเป็นSoft Power

 โดยตลาดที่น่าสนใจนอกจากในประเทศเองแล้ว ตลาดต่างประเทศก้ยังมีความต้องการสมุนไพรไทย ไมว่าจะเป็น จีน สิงคโปร์ เวียดนาม มาเลเซีย และอินเดีย โดยผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่มีความต้องการมสดคือ ขมิ้นชันผง น้ำมะขามป้อม ขนมจากขิง เครื่องดื่มจากจมูกข้าว และเครื่องแกง

สมุนไพรไทยยังรุ่ง \"พาณิชย์\"พาบุกตลาดเอเชียหวังดันเป็นSoft Power

  “การพา DBD SMART Local HERB เข้าร่วมกิจกรรมแสดงศักยภาพและเจรจาธุรกิจเป็นความมุ่งมั่นของกรมฯ ที่ต้องการเปิดประตูอนาคตให้สมุนไพรไทยควบคู่กับอาหารและเครื่องดื่มให้มีความพร้อมต่อยอดไปสู่อุตสาหกรรมหรือภาคบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง อย่างธุรกิจ Health & Wellness ธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งกรมฯ ตั้งเป้าหมายพัฒนาศักยภาพด้านการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์สมุนไพร และในอนาคตต้องเป็นหนึ่งในสินค้าที่ช่วยผลักดันนโยบาย Kitchen of the World และ Medical and Wellness Hub ของไทยได้”

สมุนไพรไทยยังรุ่ง \"พาณิชย์\"พาบุกตลาดเอเชียหวังดันเป็นSoft Power

 ทั้งนี้การร่วมงาน THAIFEX-ANUGA ASIA 2023ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นชัดแล้วว่าความต้องการผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในประเทศ แต่ยังเป็นที่ต้องการของนักธุรกิจต่างชาติด้วย ดังนั้น ถือว่ากรมฯ มาถูกทางในการพัฒนาผู้ประกอบการฯ และชูจุดเด่นให้สมุนไพรไทยซึ่งเป็นวัตถุดิบคุณภาพ และอัตลักษณ์อันทรงคุณค่าที่ได้รับการสืบทอด   มาจากรุ่นสู่รุ่นถึงภูมิปัญญาด้านการแพทย์แผนไทยผ่านการผลิตด้วยนวัตกรรมที่จะทำให้ต่อยอดสู่ความหลากหลายในผลิตภัณฑ์ และในปี 2566

สมุนไพรไทยยังรุ่ง \"พาณิชย์\"พาบุกตลาดเอเชียหวังดันเป็นSoft Power

โดยกรมฯ ยังจะมองหาตลาดให้กับผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยในเชิงรุก โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมายใน 3 กลุ่มคือ ผู้สูงอายุ ผู้รักสุขภาพ และผู้ออกกำลังกาย ซึ่งสอดคล้องกับจำนวนประชากรที่เข้าสู่สังคมผู้สูงวัยที่มีความนิยมใช้สมุนไพรเพื่อดูแลสุขภาพ และพฤติกรรมผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพเน้นการป้องกันตัวมากกว่าการรักษา ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยและโอกาสสำคัญที่จะสร้างให้สมุนไพรไทยเติบโต