ควันหลงการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งล่าสุดมีมติรับทราบ “ร่างกฎกระทรวงกำหนดวันเวลาเปิดปิดของสถานบริการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….” ตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอ โดยเป็นการกำหนดให้ "เปิดสถานบริการ 24 ชั่วโมง" ในพื้นที่เมืองการบิน ภายใต้เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี (EEC)
โดยขั้นตอนต่อไป สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วให้ดำเนินการต่อไปได้ และให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
สาระสำคัญเปิดสถานบริการ 24 ชั่วโมง
สาระสำคัญของการดำเนินการ เปิดสถานบริการ 24 ชั่วโมง ฐานเศรษฐกิจตรวจสอบรายละเอียดภายใต้ร่างกฎหมายที่ออกมาครั้งนี้เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดวันเวลาเปิดปิดของสถานบริการ พ.ศ. 2547
เพื่อกำหนดวันเวลาเปิดปิดของสถานบริการทุกประเภทที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการตามมาตรา 3 (1) – (5) แห่งพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509 ตามที่กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกา ซึ่งออกตามความในมาตรา 5
รวมทั้งตั้งอยู่ในพื้นที่เมืองการบินภายในเขตส่งเสริมเมืองการบินภาคตะวันออก ตามประกาศคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เรื่อง กำหนดเขตส่งเสริม : เมืองการบินภาคตะวันออก ลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2561 ให้เปิดสถานบริการ 24 ชั่วโมง
ที่มาก่อนทำร่างกฎหมาย
ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2565 ที่ประชุมได้พิจารณากำหนดสิทธิประโยชน์ในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ : เมืองการบินภาคตะวันออก หรือ Special EEC Zone : Easter Airport City (EECa) เพื่อพัฒนาพื้นที่ ของเมืองการบินฯ ให้เป็น “เขตประกอบการค้าเสรี” อย่างแท้จริง
ทั้งนี้ในบริบทของประเทศไทยจำเป็นต้องมีการปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายว่า ด้วยศุลกากรบางประการที่เป็นอุปสรรค การสนับสนุนมาตรการทางภาษีและมิใช่ภาษี การยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีอากร รวมถึงการจัดให้มีบริการอำนวยความสะดวกอื่นๆ เพิ่มเติม
โดยที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบ ในหลักการการกำหนดสิทธิประโยชน์ในเมืองการบิน ที่หน่วยงานเจ้าของกฎหมายได้เห็นชอบแล้ว ตามสรุปการดำเนินการด้านสิทธิประโยชน์ และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการโดยเร็ว โดยในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสถานบริการ ให้ดำเนินการกำหนดเขตพื้นที่ในการตั้งสถานบริการ รวมทั้งปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการและการเปิดสถานบริการตลอด 24 ชั่วโมง
รูปแบบของเมืองการบิน
สำนักงานคณะกรรมการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ได้ระบุถึงแผนการบริหารจัดการพื้นที่เพื่อให้บริการในเมืองการบินว่า สกพอ.จะร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้องและภาคเอกชน ในการแบ่งการใช้พื้นที่และประเภทกิจกรรมที่จะดำเนินการที่มีลักษณะพิเศษเพื่อรองรับความต้องการเฉพาะบุคคล เฉพาะกลุ่ม เช่น โรงแรม อาคารที่พักอาศัย อาคารจัดนิทรรศการและงานแสดงสินค้า พิพิธภัณฑ์ศิลปะ ร้านอาหาร ที่มีการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งรวมถึงแอลกอฮอล์ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
ตามแผนการของ สกพอ. จะเป็นการดำเนินการภายในพื้นที่ปิดอย่างเคร่งครัด มีการกั้นรั้วสูงโดยรอบ บริเวณพื้นที่จะกำหนดประตูเข้าออกที่แน่นอน รวมทั้งมีระบบรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐานสากลในการควบคุมและกำกับการเข้าออกของบุคคลทั่วไปและภายในพื้นที่เมืองการบิน โดยจะไม่กระทบต่อความสงบเรียบร้อยหรือก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนในพื้นที่โดยรอบ
ความคืบหน้าเมืองการบิน
ตามแผนงานการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบิน บนพื้นที่ 6,500 ไร่ มูลค่าการลงทุนกว่า 204,240 ล้านบาท จะแบ่งการดำเนินโครงการเเป็นส่วน ๆ หนึ่งในนั้นคือเมืองการบิน หรือ Airport City โดยมีแนวคิดการพัฒนาเพื่อเป็นศูนย์กลางด้านธุรกิจ ที่อยู่อาศัย สันทนาการ การท่องเที่ยว
ขณะนี้ได้เริ่มงานก่อสร้างส่วนระบบสาธารณูปโภคในพื้นที่โครงการแล้ว ได้แก่ งานระบบไฟฟ้าและน้ำเย็น ซึ่งได้ก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ (Solar Farm) และโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม (Cogeneration) เป็นพลังงานสะอาด มีกำลังผลิตไฟฟ้ารวม 95 เมกะวัตต์
พร้อมด้วยระบบกักเก็บพลังงานอัจฉริยะ ขนาด 50 เมกะวัตต์ เพื่อให้ สนามบินอู่ตะเภา และงานระบบอื่น ๆ ที่สำคัญ ทั้ง งานน้ำประปาและบำบัดน้ำเสีย งานระบบเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน ล่าสุดงานมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง
โดยไม่นานมานี้ ที่ประชุม ครม. ยังรับทราบผลการดำเนินงาน แก้สัญญาโครงการฯจากผลกระทบโควิดใช้สิทธิ์ผ่อนผันตามข้อ 13 ของสัญญาร่วมลงทุน โดยขอปรับแผนพัฒนาจาก 4 ระยะเป็น 6 ระยะเป้าหมายรองรับนักท่องเที่ยวเข้าไทย 60 ล้านคน ขยับการก่อสร้างออกไปเป็นปี 2567 ผลักดันให้เอกชนลงทุนเพิ่มเติมในส่วนของการพัฒนาเมืองการบินภาคตะวันออก
เช่นเดียวกับมาตรการสนับสนุนด้านภาษีและไม่ใช่ภาษี ในการประกอบกิจการ การทำงาน และการอุปโภคบริโภค และในด้านการบินและโลจิสติกส์ ให้มีผลใช้บังคับและสามารถเริ่มใช้ประโยชน์ในมาตรการสนับสนุนทั้งหมดดังกล่าวได้ภายในระยะเวลา 5 ปี นับจากวันที่เริ่มนับระยะเวลาโครงการฯ และจะมีการทบทวนพัฒนามาตรการ สนับสนุนดังกล่าวในทุก 10 ปี