นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ลดค่าไฟ และน้ำมันดีเซล ว่า ประเด็นการลดค่าไฟเป็นเรื่องที่ส.อ.ท.เรียกร้องมาตลอด โดยการลดค่าไฟลงเหลือ 4.10 บาทต่อหน่วย ต่ำกว่าที่ภาคเอกชนเคยนำเสนอที่ 4.25 บาทต่อหน่วยถือว่าเป็นบิ๊กเซอร์ไพรส์ ถือว่ารัฐบาลลดได้ใจ
ทั้งนี้ เชื่อว่าน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นในการแก้ปัญหาการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ถูกจุด เพราะภาครัฐฟังเสียงของเอกชนและประชาชน ช่วยแก้ปัญหาค่าครองชีพประชาชน
อย่างไรก็ดี กลับกันยังเป็นการเพิ่มเม็ดเงินในกระเป๋าประชาชน ขณะเดียวกันยังช่วยลดต้นทุนธุรกิจของผู้ประกอบการให้สามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้
ขณะที่รัฐบาลเลือกการลดราคาน้ำมันดีเซลเพราะอยู่ในภาคขนส่ง 60% เชื่อมโยงกับต้นทุนราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ดังนั้นการลดราคาดีเซลจะทำให้ต้นทุนผู้ประกอบการลดลง ทำให้สินค้าต่างๆไม่ขึ้นราคา หรือราคาสินค้าอาจลดลง โดยรวมจะทำให้ค่าครองชีพประชาชนลดลงเช่นเดียวกับค่าไฟ
ส่วนเบนซินสาเหตุที่รัฐบาลไม่ลดราคาช่วยทุกกลุ่มแต่เน้นช่วยกลุ่มเปราะบาง อาทิ มอเตอร์ไซด์รับจ้าง ไรเดอร์ เพราะต้องการเน้นช่วยตรงจุด เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจชัดเจน ขณะที่กลุ่มใช้น้ำมันเบนซินถือว่าเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง เติมรถยนต์ส่วนตัว รัฐจึงไม่เน้นช่วยกลุ่มนี้ แต่เน้นดูแลค่าไฟเพื่อดูแลกลุ่มนี้ไปด้วย
"จากมาตรการลดค่าใช้จ่ายครั้งนี้ถือว่ามาถูกทาง และรัฐบาลยังมีการทำมาตรการคู่ขนาน คือ มาตรการการกระตุ้น เติมเม็ดเงิน เติมรายได้ อาทิ แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้เห็นผลแน่นอน"