ภารกิจของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะ ซึ่งเดินทางเข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติครั้งที่ 78 (UNGA78) ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ในช่วงระหว่างวันที่ 18-24 กันยายน 2566 นอกจากการขึ้นเวทีในระดับผู้นำแล้ว นายกรัฐมนตรี ยังมีคิวเข้าหารือกับบริษัทชั้นนำระดับโลกของสหรัฐฯ หลายราย เพื่อดึงดูดให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า นายกรัฐมนตรี จะได้พบกับบริษัทชั้นนำระดับโลกของสหรัฐฯ หลายราย ประกอบไปด้วย
ทั้งนี้เชื่อว่า หากมีการลงทุนจากบริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านี้ จะช่วยเพิ่มเงินการลงทุนจากภาคเอกชนต่างประเทศได้อีกหลายเป็นจำนวนมากในประเทศไทย
สำหรับการเดินทางไปเยือนสหรัฐฯ ครั้งนี้ นายกฯ ยังได้นำทีมงานทางด้านการลงทุนของไทย คือ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เดินทางร่วมคระด้วย เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมการลงทุน รวมไปถึงสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ของประเทศไทยที่จัดเตรียมไว้รองรับนักลงทุนจากต่างชาติด้วย
ล่าสุด นายกฯ ได้พบกับนาย Larry Fink ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ กลุ่มบริษัท BlackRock ซึ่งเป็นบริษัทผู้นำในการบริหารการเงิน และการลงทุนของโลก เพื่อศึกษาแนวทางในการลงทุนในประเทศไทย ทั้งในภาคการลงทุนขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่
โดยเฉพาะการสนับสนุนธุรกิจที่เกี่ยวกับพลังงานสะอาด (Clean Energy) เพื่อขยายฐานการลงทุน และการผลิตในประเทศไทย นอกจากนี้ ยังให้ความสนใจที่จะลงทุนในตราสารหนี้ส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability Linked Bond : SLB) ที่จะออกโดยรัฐบาลไทย ซึ่งบริษัท BlackRock มีแนวโน้มในการลงทุนในบริษัทในประเทศไทยเร็ว ๆ นี้
นอกเหนือไปจากการหารือกับภาคเอกชนแล้ว นายกฯ ยังเตรียมหารือระดับทวิภาคีกับผู้นำและบุคคลสำคัญระดับนานาชาติ ได้แก่ ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เลขาธิการสหประชาชาติประธาน FIFA ซึ่งจะตรงกับความตั้งใจของนายกรัฐมนตรีที่จะพัฒนาการฟุตบอลไทยให้มีโอกาสมากขึ้นในเวทีโลก
รวมทั้งจะมีกิจกรรมที่สำคัญอีก ได้แก่ การประชุมมอบนโยบายแก่ทีมประเทศไทยประจำสหรัฐฯ และการพบปะชุมชนไทยในสหรัฐฯ
ส่วนการร่วมการประชุมระดับพหุภาคีภายใต้กรอบสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญครั้งที่ 78 นายกรัฐมนตรี จะได้กล่าวสุนทรพจน์ในรูปแบบเดียวกับผู้นำประเทศอื่น โดยจะได้กล่าวถึงมุมมองเป้าหมายว่าด้วยการพัฒนาอย่างยั่งยืน การประชุมในกรอบของการประชุมอาเซียนซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ และการประชุมที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพพูมิอากาศซึ่งเป็นปัญหาและความท้าทายระดับโลก
รวมทั้ง นายกรัฐมนตรี จะได้เข้าร่วมงานเลี้ยงรับรอง จัดโดยประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาและภรรยา ซึ่งจะถือเป็นโอกาสสำคัญให้ประเทศไทยได้กระชับความสัมพันธ์กับผู้นำระดับโลกอื่น ๆ ต่อไป