แผนการคลังระยะปานกลาง ฉบับทบทวน ครอบคลุมตั้งแต่ปีงบประมาณ 2567- 2570 ได้ผ่านการเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว เพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินนโยบายของรัฐบาล โดยมีวงเงินงบประมาณรายจ่ายรวม 14,602,000 ล้านบาท รายได้นำส่งคลังรวม 11,745,000 ล้านบาท โดยรัฐบาลยังคงจัดทำงบประมาณแบบขาดดุลต่อเนื่อง โดยมีแผนกู้เงินเพื่อชดเชยขาดดุลรวม 2,857,000 ล้านบาท
ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐกิจและการเมือง เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การขับเคลื่อนแผนการคลังระยะปานกลางอาจต้องกลับมาทบทวนอีกครั้งหลังปี 2567 เพราะรัฐบาลต้องบริหารแนวนโยบายที่ประกาศไว้กับประชาชน ซึ่งแต่ละพรรคคิดเป็นค่าใช้จ่ายสูงมาก ขณะที่รายได้อาจจะกลับมาจากการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ภาพรวมยังเป็นนามธรรม
ดังนั้นหากรัฐบาลเริ่มแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท น่าจะทำให้สัดส่วนจีดีพีเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 2% เพื่อให้จีดีพีขยายตัวที่ 5% ซึ่งจีดีพีเพิ่ม 2% หรือประมาณกว่า 3.6 แสนล้านบาท นั่นหมายความว่า รัฐบาลยังขาดเงินที่จะต้องมาโปะหรือต้องก่อหนี้อีกกว่า 2 แสนล้านบาท
“หากไม่สามารถไปตัดค่าใช้จ่ายจากนโยบายของพรรคร่วมได้ ตัวเลขขาดดุลที่อาจเพิ่มขึ้นถึง 4% ของจีดีพีได้ ประเด็นคือ จีดีพีจะเพิ่มขึ้นได้ 5% ที่ตั้งเป้าหรือไม่ สามารถตัดงบประมาณรายจ่ายได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก และหากทำไม่ได้โอกาสที่จะขาดดุลงบประมาณจะสูงกว่าแผนการคลังระยะปานกลางที่ออกมา และอาจจะเกิดประเด็นที่คาดไม่ถึงได้ในระยะต่อไป” ดร.สมชาย กล่าว
ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า การจัดทำแผนขาดดุลงบประมาณต่อเนื่องนั้น ต้องไปดูไส้ในด้วยว่า จะกระทบต่อการจ่ายดอกเบี้ย การลงทุน หรือด้านภาระผูกพันมากแค่ไหน ซึ่งขณะนี้มีความเป็นห่วงเรื่องสำคัญๆ 3 เรื่องคือ
อย่างไรก็ดีหากมองในแง่ดี ถ้าเศรษฐกิจยังขยายตัวได้ดีต่อไป ก็ยังไม่น่าจะมีกังวลมากนัก
สาระสำคัญของแผนการคลังระยะปานกลาง ที่ผ่านการเห็นชอบจากครม. โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. สถานะและประมาณการเศรษฐกิจ
ในปี 2567 คาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (Gross Domestic Product : GDP) จะขยายตัวอยู่ที่ 3.2% และ GDP Deflator อยู่ที่ 1.8% สำหรับปี 2568 คาดว่า GDP จะขยายตัวอยู่ที่ 3.6% และขยายตัวอยู่ที่ 3.4% ในปี 2569 - 2570 ในส่วนของ GDP Deflator ในปี 2568 - 2570 อยู่ที่ 2%
2. สถานะและการประมาณการการคลัง
ประมาณการรายได้รัฐบาลสุทธิปีงบประมาณ 2567 - 2570 แยกเป็น
ประมาณการงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ 2567 - 2570 แยกเป็น
จากประมาณการรายได้รัฐบาลสุทธิและงบประมาณรายจ่ายดังกล่าวในปีงบประมาณ 2567 - 2570 รัฐบาลจะขาดดุลงบประมาณ แยกเป็น
ประมาณการสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP สำหรับปีงบประมาณ 2567 -2570 แยกเป็น
หน้า 1 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3924 วันที่ 21 – 23 กันยายน พ.ศ. 2566