วันนี้ (29 กันยายน 2566) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะ เดินทางตรวจราชการ จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดพังงา โดยนายกฯรับฟังภาพรวมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวบริเวณชายฝั่งทะเลอันดามัน ณ ห้องประชุม AOT
ตอนหนึ่งของการหารือ นายกรัฐมนตรี ยังฝากถึงผู้บริหารของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.ให้ช่วยดูเรื่องพื้นที่สำหรับเครื่องบินส่วนตัว (Private Jet) เพราะภูเก็ตเป็นเป้าหมายของนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง เพราะเมื่อพิจารณาพื้นที่แล้วไม่มีพื้นที่ที่สามารถทำ Private Jet ได้ และจำเป็นจะต้องขยายไปยังพื้นที่ใกล้เคียง
จึงขอให้ดูเรื่องนี้เพิ่มขึ้นด้วย เพื่อให้เป็นไปตามความคาดหวังของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในพื้นที่ และขอให้บริหารจัดการเรื่อง Private Jet ให้ดี อย่าให้กระทบต่อตารางการบินของนักท่องเที่ยว
“จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดสำคัญเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยหวังว่าเจ้าหน้าที่ทุกคน จะร่วมแรงร่วมใจผลักดันให้ไปถึงจุดที่ภูเก็ตมีศักยภาพที่สามารถไปถึงได้ เรายังมีภารกิจกันอีกเยอะขอให้ทำงานอย่างลืมความเหน็ดเหนื่อย”
สำหรับภาพรวมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวบริเวณชายฝั่งทะเลอันดามันนั้น จากการรายงานพบว่า มีการพัฒนาท่าอากาศยานแนวชายฝั่งอันดามัน ประกอบด้วย
ส่วนของโครงการทางพิเศษ และโครงข่ายทางหลวงในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ประกอบด้วย
1.โครงการทางพิเศษใน จ.ภูเก็ต การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) อยู่ระหว่างดําเนินโครงการทางพิเศษใน จ.ภูเก็ต จําแนกเป็น 2 ระยะ ดังนี้
2. โครงการพัฒนาปรับปรุงโครงข่ายทางหลวง จ.ภูเก็ต กระทรวงคมนาคม โดยกรมทางหลวง อยู่ระหว่างดําเนินโครงการพัฒนาปรับปรุงระบบคมนาคมขนส่งทางถนนในพื้นที่ จ.ภูเก็ต หลายโครงการ มีโครงการที่เร่งรัดการดำเนินการในปีงบประมาณ 2567 ดังนี้
นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า รัฐบาลภายใต้การนำของตนเป็นรัฐบาลของประชาชนเพื่อประชาชน เรามาตรงนี้ไม่จำเป็นต้องมีผู้แทนราษฎรอยู่ในพื้นที่ เพราะตนมาที่นี่ครั้งที่สองแล้วมาแสดงให้เห็นว่าวิธีการทำงานของเรา เราจะติดตามงานอย่างต่อเนื่อง และช่วงนี้ได้ทำงานกับกระทรวงคมนาคมบ่อย ก็หวังว่าจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับกระทรวงอื่นด้วย
“ที่พูดแล้วก็ดำเนินการทันทีพูดไว้ ซึ่งวันนี้ แม้จะมีเวลาเพียงครึ่งวัน ก็ลงพื้นที่มาดูความคืบหน้าว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง หลังจากที่เราคุยกันไม่ถึงเดือน ไม่ว่าจะเป็นภายในสนามบิน หรือการสร้างถนนใหม่ๆ ซึ่งใช้งบประมาณน้อย แต่ได้ผลเชิงกว้าง”
ขณะเดียวกัน นายกฯ ยังระบุว่า ในช่วง 4 ปีนี้ จะต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพราะภูเก็ตเป็นเมืองระดับโลก และเป็นจุดมุ่งหมายของการเดินทางเบอร์ 1 ของโลกก็ว่าได้ เพราะเรามีพร้อมทุกอย่าง ดังนั้นอย่ามีอะไรที่ทำให้เราไม่สามารถพัฒนาไปถึงศักยภาพที่เราทำได้
นอกจากนี้นายกฯ ยังระบุถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าเป็นผู้ที่ปิดทองหลังพระดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว จึงอยากฝากให้ดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวตั้งแต่ก้าวแรกที่นักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทยจนถึงเก้าสุดท้ายที่เดินทางออกนอกประเทศไทย ขอให้อยู่ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่รัฐที่ให้ความเป็นธรรมและอย่าให้มีปัญหาเกิดขึ้น เพราะการท่องเที่ยวไทยจะเสียหายมาก ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติช่วยดูแลเรื่องนี้ด้วย
จากนั้นในช่วงเวลาประมาณ 14.00 น. นายกฯ ได้ลงพื้นที่ก่อสร้างโครงการทางพิเศษ สายกะทู้ – ป่าตอง ตำบลกะทู้ อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต พร้อมพบปะตัวแทนหน่วยงานราชการและประชาชน เพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการจราจร และการขยายเส้นทางเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว
นายกฯ ระบุว่า รัฐบาลพร้อมเร่งผลักดันการอำนวยความสะดวกในส่วนโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม การสร้างสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ทั้งการปรับปรุงสนามบิน การเพิ่มเที่ยวบิน และในทุกขั้นตอนการบริการที่เป็นประตูสู่ประเทศไทย ทั้งนี้ ในส่วนของรัฐบาลพร้อมสนับสนุน และขอให้เร่งรัดการดำเนินการ เพื่อสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ
โดยพิจารณาทั้งในเรื่องการใช้งบประมาณ ระยะเวลาในการก่อสร้าง ให้มีความเหมาะสม เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด และเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนโดยรวม สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง การดำเนินการก่อสร้างโครงการต่าง ๆ ต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และความเดือดร้อนของประชาชนด้วย
สำหรับการก่อสร้างโครงการทางพิเศษ สายกะทู้ - ป่าตอง ตำบลกะทู้ อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ได้มุ่งมั่นให้มีการศึกษาเพื่อพัฒนาอย่างรอบด้าน ทั้งด้านวิศวกรรม ด้านเศรษฐกิจ ด้านสิ่งแวดล้อม โครงการทางพิเศษในจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 และระยะที่ 2 ประกอบด้วย
ระยะที่ 1 ช่วงกะทู้-ป่าตอง เป็นทางพิเศษยกระดับและอุโมงค์ขนาด 4 ช่องจราจรต่อทิศทาง โดยเป็นทางยกระดับข้ามถนนพิศิษฐ์กรณีย์จนถึงเขานาคเกิด แล้วจึงเป็นอุโมงค์คู่ หลังจากนั้นเป็นทางยกระดับ และสิ้นสุดโครงการที่ ตำบลกะ บริเวณจุดตัดกับ ทล. 4029 รวมระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร
ระยะที่ 2 ช่วงเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ เป็นทางพิเศษขนาด 4 ช่องจราจร ช่องจราจรละ 3.5เมตร เกาะกลาง 16.20 เมตร รองรับการขยายช่องจราจรในอนาคต ไหล่ทางด้านใน 1.50 เมตร ไหล่ทางด้านนอก 2.5-เมตร และเนื่องจากรูปแบบโครงการเป็นทางพิเศษที่มีการควบคุมการเข้าออก
จึงจำเป็นต้องมีการออกแบบทางบริการฝั่งละ 2 ช่องจราจรแบบวิ่งสวนทิศทางจราจรตามความเหมาะสมเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่สามารถสัญจรได้ตามเดิม โดยไม่ถูกทางพิเศษปิดกั้น
สำหรับช่วงแนวเส้นทางในการต่อขยายเข้าสู่กะทู้ และเชื่อมต่อกับทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง แนวเส้นทางผ่านพื้นที่เขากมลาซึ่งเป็นพื้นที่ภูเขาสูงชัน จึงออกแบบเป็นอุโมงค์คู่ อุโมงค์ละ 2 ช่องจราจร และช่วงแนวเส้นทางที่ผ่านพื้นที่เมืองกะทู้จะออกแบบเป็นทางพิเศษยกระดับขนาด 4 ช่องจราจร มีแนวเส้นทางอยู่บนถนนเดิมรวมระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการลงพื้นที่นายกฯใช้รถยนต์ โตโยต้าอัลพาร์ด ทะเบียน ขง 4477 ภูเก็ต ซึ่งเป็นรถคันเดิมที่นายกฯเคยใช้ตอนลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต ครั้งที่ผ่านมา
ต่อมาเมื่อเวลา 15.10 น. นายกฯ ลงพื้นที่ตำบลโคกกลอย อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา เพื่อรับฟังข้อสรุปเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานนานาชาติอันดามัน ซึ่งใช้พื้นที่ในการก่อสร้างประมาณ 7,400 ไร่ จากการสำรวจมีความเหมาะสมต่อการสร้างสนามบิน
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำการก่อสร้างจะต้องไม่สร้างปัญหา กระทบต่อประชาชนทั้งที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกิน ส่วนการจ่ายเงินชดเชยค่าเวนคืนที่ดินจะต้องเป็นธรรม โดยเฉพาะเรื่องระยะเวลาเวนคืนและการจ่ายเงินจะต้องกำหนดเป็นแผนให้ชัดเจน พร้อมกำชับเรื่องการเชื่อมต่อระบบคมนาคมอย่างเหมาะสม รวมถึงระบบสาธารณูปโภคจะต้องมีความพร้อมรองรับความเจริญเติบโตในอนาคต
“นายกรัฐมนตรีย้ำว่า การลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงาไม่ได้มีนัยยะทางการเมือง มาในฐานะนายกรัฐมนตรี ในนามของรัฐบาล เพื่อรับฟังปัญหา ติดตามงานตามข้อสั่งการ”