วันนี้ (3 ตุลาคม 2566) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีวาระสำคัญที่เตรียมเสนอเข้ามายังที่ประชุมเพื่อพิจารณาหลายเรื่อง โดยเฉพาะนโนยายรัฐบาล ทั้ง การเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet และ การลดราคาค่าเดินทางรถไฟฟ้าสายสีม่วง รถไฟสายสีแดง เหลือ 20 บาทตลอดสาย
สำหรับเรื่องที่น่าสนใจเรื่องแรก นั่นคือ เติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญที่รัฐบาลได้แถลงต่อรัฐสภา โดยมีกรอบวงเงิน 5.6 แสนล้านบาท โดยการประชุมครม.ครั้งนี้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นประธานการประชุมหารือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ Digital wallet จะเสนอที่ประชุมครม. แต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายขับเคลื่อนเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่าน Digital wallet ด้วย
สำหรับการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดนี้ขึ้นมานั้น ถือเป็นคณะกรรมการชุดใหญ่ที่สำคัญต่อการขับเคลื่อนนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท เพื่อให้สามารถผลักดันนโยบายออกมาให้ทันในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 โดยจะประกอบไปด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาหาข้อสรุป ทั้ง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข รายละเอียด การจัดหาแหล่งเงิน การจัดทำระบบมารองรับในการเติมเงินดิจิทัลทั้งหมด
กระทรวงคมนาคม เตรียมเสนอครม. วันนี้ เห็นชอบการปรับลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าเหลือ 20 บาทตลอดสาย ครอบคลุม รถไฟสายสีแดง ช่วงตลิ่งชัน - บางซื่อ – รังสิต และ รถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน – คลองบางไผ่ ภายหลังจากที่ประชุมคณะกรรมการของทั้ง การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้เห็นชอบการดำเนินมาตรการตามนโยบายรัฐบาลนี้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
การประชุมครม. วันนี้ หลายหน่วยงานเตรียมเสนอขออนุมัติรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป โดยที่ผ่านมา นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ยอมรับว่า ในการประชุมครม.วันนี้ จะมีโครงการที่เสนอขออนุมัติรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณ ประมาณ 40 โครงการ
โดยจะมีการเตรียมความพร้อมขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง โดยเฉพาะแผนการลงทุนของแต่ละหน่วยงาน เพื่อให้สามารถทำโครงการได้ต่อเนื่อง และเมื่อได้รับการอนุมัติงบประมาณ จะได้เร่งรัดเงินลงทุนออกสู่ระบบเศรษฐกิจต่อไป
ส่วน กระทรวงแรงงาน คาดว่า จะจัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับการผ่อนผันการทำงานของแรงงานต่างด้าว 2 เรื่อง เสนอให้ครม.พิจารณา ดังนี้
1.กลุ่มมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2566 นายจ้างจะต้องยื่นคำขออนุญาตทำงานและเอกสารที่เกี่ยวข้อง ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมชำระค่าธรรมเนียม ภายในระยะเวลา 90 วัน นับจากวันที่ผ่อนผัน และให้ดำเนินการจัดทำหนังสือเดินทาง (Passport) หรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง/CI หรือ TD และตรวจลงตรา (Visa) ให้แล้วเสร็จ ภายใน 13 กุมภาพันธ์ 2568
โดยให้ผู้ติดตามซึ่งเป็นบุตรของแรงงานข้ามชาติกลุ่มดังกล่าว ที่มีอายุไม่เกิน 18 ปีบริบูรณ์ และได้แจ้งรายชื่อไว้ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2566 มีสิทธิอยู่ในราชอาณาจักรตามสิทธิของบิดาหรือมารดา
2.แรงงาน MOU ที่วาระการจ้างงานครบ 4 ปี ให้นายจ้างยื่นบัญชีรายชื่อคนต่างด้าว พร้อมรูปถ่าย เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการยื่นนำแรงงานเข้ามาทำงานตาม MOU โดยให้เริ่มดำเนินการตามวัน เวลา ที่กรมการจัดหางานกำหนด
ทั้งนี้ในระหว่างการผ่อนผันให้นายจ้างขออนุญาตนำแรงงานต่างด้าวที่ได้รับการผ่อนผันเข้ามาทำงานตาม MOU และให้แรงงานเดินทางกลับประเทศต้นทางและเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยในโอกาสแรกโดยไม่ต้องมีระยะเวลาพัก 30 วัน
กระทรวงสาธารณสุข เตรียมเสนอ ครม.ผลักดันนโยบาย Quick Win ของรัฐบาลยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค Quick Win 100 วัน ได้แก่
วาระการแต่งตั้ง
จับตาการแต่งตั้งข้าราชการระดับสูง ของกระทรวงต่าง ๆ ที่จะเสนอเข้ามายังที่ประชุมครม. เพิ่มเติม เช่น กระทรวงสาธารณสุข ที่ผ่านมา นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุวัา เตรียมเสนอรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการสาธารณสุขเข้าที่ประชุมครม. วันนี้ เพื่อพิจารณาแต่งตั้ง เช่นเดียวกับการแต่งตั้งข้าราชการการเมืองในตำแหน่งต่าง ๆ ที่ยังคงขาดอยู่ด้วย เช่น ตำแหน่งผู้แทนการค้าไทย
ส่วนประเด็นทางด้านการเมือง จับตาการเสนอรายชื่อคณะกรรมการจัดทำประชามติ เพื่อแก้รัฐธรรมนูญ หลังจากนายกฯ ยืนยันว่า จะหารือเรื่องนี้ในที่ประชุมครม.แน่นอน