วันนี้ (6 พฤศจิกายน 2566) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในการประชุมขับเคลื่อนและติดตามนโยบายของรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย โดยมีนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช. มหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมผู้บริหารกระทรวง และหน่วยงานภายใต้กระทรวงมหาดไทยเข้าร่วมประชุม
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ โฆษกกระทรวงมหาดไทย สรุปรายละเอียดว่า นายอนุทิน ได้ตอนหนึ่งในช่วงระหว่างการประชุม รัฐบาล มีกำหนดจะประกาศคิกออฟแนวทางจัดการ หนี้นอกระบบ ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้กับประชาชนทั่วประเทศ
สำหรับการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบนั้น ที่ผ่านมา นายอนุทิน ได้ร่วมการประชุมกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ซึ่งแนวทางการแก้ไขปัญหานั้นส่วนหนึ่งจะต้องพึ่งพากลไกของกระทรวงมหาดไทย และเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
ทั้งนี้หลังจากรัฐบาลประกาศคิ๊กออฟแนวทางจัดการหนี้นอกระบบ ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 แล้ว กระทรวงมหาดไทย ยังเตรียมประชุมกับหน่วยงานเกี่ยวข้องทั่วประเทศ ในวันที่ 8 ธันวาคม นี้ เพื่อมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุมหารือข้อราชการการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอกธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจโทอัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมหารือ
โดยนายกฯ กล่าวภายหลังการหารือว่า ได้มีการพูดคุยกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกระทรวงมหาดไทย ซึ่งประมาณสิ้นเดือนนี้จะมีการแถลงข่าวใหญ่ เกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของประชาชน ซึ่งเกี่ยวข้องกับหนี้นอกระบบ
นอกจากนี้ นายเศรษฐา ยังได้ทวิตข้อความผ่าน x ว่า ความรับผิดชอบในการจัดการเรื่องหนี้นอกระบบ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการคลัง เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ทุกฝ่ายต้องหาแนวทางในการแก้ไข เพราะเป็นปัญหาที่กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน
ทั้งนี้มีความตั้งใจให้เป็นวาระแห่งชาติ เพราะในบางครั้งมีการเรียกเก็บดอกเบี้ยที่สูงเกินกฎหมาย และลูกหนี้ต้องรับภาระหนี้ ที่เกินเงินต้นเป็นจำนวนมากเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น ผมได้สั่งการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องหาแนวทางในการจัดการแก้ไขหนี้สินรายย่อยเชิงรุก เพื่อเป็นการแก้ปัญหาเรื่องหนี้สินที่ต้นทางให้ประชาชนครับ