นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าการเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และแบริ่ง-สมุทรปราการ หลังจากมีคำสั่งของศาลปกครองกลาง ให้ กทม.หารือกับกระทรวงคมนาคมถึงความเหมาะสมในการเก็บราคาค่าโดยสารนั้น เบื้องต้นสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) ได้ประชุมร่วมกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แล้ว ซึ่งไม่ได้ขัดข้องแต่อย่างใด
ขณะเดียวกันสจส.ได้ทำหนังสือถึงกระทรวงคมนาคมเพื่อไม่ให้ติดขัดในข้อกฎหมายในการเตรียมเก็บค่าโดยสารในอัตรา 15 บาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างกระทรวงคมนาคมตอบกลับหนังสือดังกล่าว
ทั้งนี้หากไม่มีประเด็นใดเพิ่มเติม หลังจากนั้นจะเสนอต่อนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. ลงนามประกาศเก็บค่าโดยสาร โดยภายหลังการลงนามแล้วเสร็จภายใน 30 วันจะเริ่มเก็บค่าโดยสารได้ทันที คาดว่าจะดำเนินการได้ภายในปลายเดือน ธ.ค.นี้
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี กล่าวว่า กรณีที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเตรียมลงนามในประกาศกรุงเทพมหานครว่าด้วยเรื่องการจัดเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายนั้น บริษัทฯ ยังไม่ได้รับแจ้งจาก กทม. แต่หาก กทม.ลงนามแล้ว ตามกฎหมายจะมีผลบังคับใช้ภายใน 30 วัน เพื่อให้เวลาในการประชาสัมพันธ์แจ้งให้ประชาชนรับทราบอย่างทั่วถึงก่อน
"เมื่อมีการจัดเก็บค่าโดยสารส่วนต่อขยายแล้วหวังว่าทาง กทม.จะแบ่งรายได้มาจ่ายหนี้ให้ BTSC เพื่อให้หนี้ที่มีอยู่ลดลงบ้าง"
สำหรับภาระหนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียวระหว่างกรุงเทพมหานคร (กทม.) และ BTSC ขณะนี้มีตัวเลขยอดหนี้รวมกว่า 5 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น หนี้งานติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องกล (E&M) ประมาณ 2.3 หมื่นล้านบาท และ หนี้ที่บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (KT) จ้าง BTSC เดินรถ ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันทราบว่า กทม. อยู่ระหว่างพิจารณาหาแนวทางการชำระหนี้ คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้