รัฐบาลเคาะแล้ว ลดหนี้กยศ. คำนวณยอดใหม่ ประเดิม 8.6 หมื่นคน ปี 2566

14 พ.ย. 2566 | 09:17 น.
อัปเดตล่าสุด :15 พ.ย. 2566 | 06:41 น.

บอร์ดแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย ไฟเขียวเคาะแนวทางลดหนี้กยศ. กลุ่มแรก คำนวณยอดหนี้ใหม่ทั้งระบบ เลือกวิธีตัดเงินต้นให้ลูกหนี้ ก่อนตัดยอดดอกเบี้ยปรับ ประเดิมลูกหนี้กลุ่มถูกฟ้อง 8.6 หมื่นคน ภายในปี 2566 นี้

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการฯ นัดแรก เห็นชอบแนวทางการแก้ปัญหาหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) โดยจะคำนวณภาระหนี้ของลูกหนี้ที่มีอยู่ในปัจจุบันใหม่ ให้เป็นไปตามพ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 ซึ่งมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา

“การแก้ไขปัญหาหนี้กลุ่มกยศ. จะเป้นกลุ่มแรกที่ได้รับการช่วยเหลือ จากนี้จะขยายความช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มอื่น ๆ ต่อไปให้ครอบคลุมทั้งระบบ” นายกิตติรัตน์ ระบุ

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ตามกฎหมายฉบับใหม่จะมีการคำนวณภาระหนี้ของลูกหนี้ กยศ. ใหม่ โดยปรับลำดับการตัดยอดหนี้ จากเดิมเมื่อลูกหนี้ผ่อนชำระหนี้มาแล้ว จะตัดยอดดอกเบี้ยผิดนัดชำระก่อน ดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นใหม่ และเงินต้น แต่การคำนวณรอบใหม่จะปรับลำดับโดยเริ่มจากตัดเงินต้นก่อน แล้วจากนั้นจึงตัดดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นใหม่ และดอกเบี้ยผิดนัดชำระ ทำให้เงินต้นลดลงเร็วมากกว่าเดิม

 

รัฐบาลเคาะแล้ว ลดหนี้กยศ. คำนวณยอดใหม่ ประเดิม 8.6 หมื่นคน ปี 2566

สำหรับการคำนวณยอดหนี้ใหม่ครั้งนี้จะครอบคลุมลูกหนี้ประมาณ 3.5 ล้านราย ที่ยังมีสถานะเป็นลูกหนี้ของกองทุน กยศ. หลังจากพ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2566 โดยการคำนวณจะเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่วันแรกที่ได้ชำระหนี้ให้กับ กยศ.

“ลูกหนี้ที่ผ่อนชำระมาแล้ว เมื่อคำนวณใหม่ จะมีภาระหนี้ลดลงอย่างชัดเจน ส่วนลูกหนี้บางรายที่ยังผ่อนอยู่ยังไม่หมด เมื่อคำนวณใหม่อาจจะหมดหนี้และปิดหนี้ได้เลย แต่ที่ต้องดูเพิ่มเติมหลังกฎหมายใหม่ออกมา นั่นคือ กลุ่มของลูกหนี้ที่ปิดยอดไปแล้ว กยศ.จะตามไปคำนวณยอดหนี้ให้เช่นกัน”

นายลวรณ กล่าวว่า ในขั้นตอนการดำเนินงาน กยศ. จะไปจัดทำระบบการคำนวณให้เสร็จสิ้นภายใน 5 เดือนนับจากนี้ แต่ที่ประชุมมองว่าเป็นเวลาที่นานเกินไป จึงขอให้มีการทำระบบขึ้นมาแบบง่าย หรือคำนวณด้วยเจ้าหนี้ที่ก่อน เพื่อเร่งคำนวณยอดหนี้ให้ลูกหนี้กลุ่มที่มีความเดือดร้อน และมีความจำเป็นเร่งด่วนก่อน 2 กลุ่ม ดังนี้

  1. ลูกหนี้ที่ถูกฟ้องร้องและอยู่ในชั้นของกรมบังคับคดี จำนวน 4.6 หมื่นคน จะเริ่มทำให้เสร็จในเดือนธันวาคม 2566 นี้
  2. ลูกหนี้ที่จะหมดอายุความในเดือนมีนาคม 2567 จำนวน 4 หมื่นคน เพื่อปรับโครงสร้างหนี้กับกยศ.ใหม่

 

รัฐบาลเคาะแล้ว ลดหนี้กยศ. คำนวณยอดใหม่ ประเดิม 8.6 หมื่นคน ปี 2566

“หากคำนวณได้เร็วจนทำเสร็จทั้ง 2 กลุ่มแล้ว แต่ระบบยังไม่พร้อม เจ้าหน้าที่จะเร่งทำการคำนวณลูกหนี้ กยศ. อื่น ๆ อีกเพิ่มเติม เพื่อคำนวณยอดหนี้ใหม่ให้กับกลุ่มนี้ด้วย ซึ่งจะเป็นข่าวดีและเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับลูกหนี้กยศ.ทั้งหมด” 

นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) กล่าวว่า ลูกหนี้ทุกคนจะได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย ซึ่งมีสถานะลูกหนี้ ตั้งแต่พรบ.กยศ. ฉบับใหม่ มีผลบังคับใช้ ขณะที่ผู้ค้ำประกันเดิมที่มีอยู่เดิม เมื่อลูกหนี้ได้ปรับโครงสร้างหนี้ไปแล้ว จะหลุดพ้นจากภาระค้ำประกันทันที โดยเริ่มต้นนำร่องลูกหนี้ในกรุงเทพฯก่อน และขยายไปยังภูมิภาคต่อไป