นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) กล่าวว่า ในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 มีผู้กู้หลายรายประสบปัญหาทางการเงิน ทำให้มียอดกู้เงิน กยศ. สูงที่สุดในรอบ 20 ปี โดยปล่อยกู้อยู่ที่ 46,000 ล้านบาท จากผู้กู้เงินหรือนักเรียนทุนรัฐบาล 7 แสนคน
โดยในปี 2567 คาดว่ายอดกู้เงินจะอยู่ที่ประมาณ 45,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ย้ำว่าทุกคนได้รับสิทธิอย่างเท่าเทียม กยศ. จึงขอเป็นหลักประกันให้กับทุกครอบครัว เพื่อให้เข้าถึงการศึกษา
สำหรับการ พ.ร.บ.กยศ. ฉบับใหม่ มีผลบังคับใช้ไปแล้วเมื่อวันที่ 20 มี.ค. 66 โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ต่ำกว่าเดิม และให้คำนวณภาระหนี้ใหม่ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
สำหรับลูกหนี้ กยศ.ทั่วประเทศมีประมาณ 6.7 ล้านคน มูลหนี้ประมาณ 743,981 ล้านบาท หากบังคับใช้กฎหมายใหม่ ตาม พ.ร.บ.กยศ. จะช่วยลดภาระหนี้
เมื่อคำนวณหนี้สินแบบใหม่ในอัตราดอกเบี้ยใหม่ เมื่อตัดเงินต้นที่ครบกำหนด แล้วค่อยตัดดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ จะทำให้ลดภาระหนี้ได้มากขึ้น สิ่งเป็นประโยชน์มากที่สุด คือ ย้อนหลังไปถึงวันแรกของการกู้เงิน ด้วยการนับถอยหลังให้หมดทุกคน ด้วยการคำนวณหนี้ใหม่ทั้งระบบ และหลังจากคำนวณยอดทั้งหมดแล้ว หากผู้กู้ที่จ่ายเงินเกินยอดหนี้จะได้รับเงินคืนทั้งหมดที่จ่ายเกิน