นายพิชัย นริพทะพันธุ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ หรือ ค่าแรงขั้นต่ำ รอบใหม่ในปี 2567 ว่า การที่นายกรัฐมนตรี ทักท้วงให้มีการทบทวนการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำว่าให้มากกว่าที่คณะกรรมการค้าจ้าง หรือบอร์ดไตรภาคี ได้มีการเสนอเข้ามานั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะตัวเลขที่ประกาศขึ้นมานั้นน้อยเกินไป และไม่เพียงพอกับค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นของแรงงาน
“จะเห็นได้ว่าค่าแรงที่ระดับ 300 บาทต้นๆนั้นใช้มาตั้งแต่ปี 2012 แล้วเป็นเวลากว่า 10 ปี ซึ่งการปรับขึ้นในครั้งนี้ควรจะเพิ่มมากกว่าตัวเลขที่ประกาศออกมา และใกล้กับระดับ 400 บาทต่อวันที่นายกรัฐมนตรีให้นโยบายนั้นเป็นเรื่องที่ดีที่สุด” นายพิชัย กล่าว
ส่วนการปรับค่าแรงขั้นต่ำจะสามารถปรับเพิ่มขึ้น 400 บาททั่วประเทศเท่ากันได้หรือไม่นั้น นายพิชัย ระบุว่า เรื่องนี้น่าจะทำได้ ไม่อย่างนั้นจะไปเพิ่มความเหลื่อมล้ำ เพราะแรงงานที่ทำงานประเภทเดียวกันในทุกจังหวัดก็ควรจะได้ค่าจ้างแรงงานเท่ากัน
“ปกติการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำนั้นจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม ภาคธุรกิจต่าง ๆ นั้นจะสามารถปรับตัว ใช้เทคโนโลยีเพิ่มขึ้น และเพิ่มทักษะให้กับแรงงาน ซึ่งจะดีกับภาพเศรษฐกิจโดยรวมด้วย”นายพิชัย กล่าว
สำหรับการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของแรงงานในปี 2567 นั้น คณะกรรมการค่าจ้าง เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2566 ได้มีมติเห็นชอบให้เพิ่มค่าจ้างตั้งแต่ 2-16 บาทต่อวัน ตามที่คณะอนุกรรมการค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัดเสนอมา โดยจะปรับอัตราสูงสุดในจังหวัดภูเก็ต วันละ 370 บาท และอัตราต่ำสุดในจังหวัดนราธิวาส ปัตตานี และยะลา วันละ 330 บาท เบื้องต้นกำหนดระยะเวลาว่าจะให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป