ราคาทองดิ่งเหว! ทรุด 67.40 ดอลล์ ปิดหลุด 2,350 ดอลล์ หมดแรงหนุนจากข่าวสงคราม
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดวันจันทร์ (22 เม.ย.) ร่วงแรง 67.40 ดอลลาร์ หรือดิ่ง 2.79% หลังนักลงทุนคลายกังวลสถานการณในตะวันออกกลาง ส่งผลให้เกิดการเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เช่นหุ้น
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 67.40 ดอลลาร์ หรือ 2.79% ปิดที่ $2,346.40 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 160.7 เซนต์ หรือ 5.52% ปิดที่ 27.521 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 12.50 ดอลลาร์ หรือ 1.32% ปิดที่ 931.30 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 10.80 ดอลลาร์ หรือ 1.05% ปิดที่ 1,015.60 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน หลังเจ้าหน้าที่อิสราเอลระบุว่า การที่อิสราเอลโจมตีอิหร่านเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (19 เม.ย.) นั้น เป็นเพียงการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์มากกว่าที่มีจุดประสงค์เพื่อทำลายล้างอิหร่าน ขณะที่เจ้าหน้าที่อิหร่านยืนยันว่า อิหร่านไม่มีแผนที่จะตอบโต้อิสราเอล
ดาเนียล กาลี นักวิเคราะห์จากบริษัท TD Securities กล่าวว่า ความเสี่ยงที่จะเกิดการล้างแค้นตอบโต้กันในตะวันออกลางในขณะนี้มีน้อยลงแล้ว ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะเดียวกันนักลงทุนหันไปจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยคาดว่าราคาทองคำอาจจะกลับมาทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง หากดัชนี PCE ส่งสัญญาณถึงการชะลอตัวของเงินเฟ้อ
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE ทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 2.6% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.5% ในเดือนก.พ. และคาดว่าดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 2.6% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.8% ในเดือนก.พ.