จากการเกิดเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บสารเคมี ซึ่งเป็นของกลางอยู่ระหว่างดำเนินคดี ในพื้นที่ ม.2 ตำบลภาชี อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมานางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า คพ. ได้มอบหมายทีมตรวจสอบเหตุฉุกเฉินสารเคมีจากส่วนกลาง และหน่วยพิทักษ์สิ่งแวดล้อมที่ 6 (สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 6 นนทบุรี)
ลงพื้นที่สนับสนุนตอบโต้เหตุฉุกเฉินอุบัติภัยสารเคมี ปฏิบัติงานร่วมกับจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเข้าตรวจสอบคุณภาพอากาศในชุมชนโดยรอบพื้นที่โกดังเก็บสารเคมี โดยเฉพาะพื้นที่ด้านท้ายลมและพื้นที่อ่อนไหว เช่น สถานพยาบาลและชุมชนหนาแน่น เพื่อแจ้งเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพ
นางสาวปรีญาพร กล่าวว่า จากการรายงานสถานการณ์ และผลการตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม สรุปดังนี้
1. โกดังดังกล่าว มีอาคารเก็บสารเคมี 4,000 ตัน จำนวน 5 หลัง โดยอาคาร 4 และ 5 เป็นอาคารที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ ปัจจุบันสามารถควบคุมเพลิงไหม้ได้แล้ว แต่ยังพบมีกลุ่มควันสารเคมีเล็กน้อยและมีกลิ่นเหม็นสารเคมี และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังคงเฝ้าระวังในพื้นที่
2. คพ. ได้ติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศแบบฉุกเฉินด้วยเครื่องมือตรวจวัดไอระเหยสารเคมีในภาคสนาม (FTIR) บริเวณชุมชนโดยรอบตั้งแต่เมื่อคืน พบสารคลอรีนและสารแอมโมเนีย ซึ่งมีความเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน และได้รายงานข้อมูลต่อผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
3. โรงพยาบาลอำเภอภาชี ประกาศงดให้บริการ เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ใต้ลมทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก และเทศบาลตำบลภาชีประกาศให้ประชาชนในรัศมีประมาณ 200 เมตร อพยพไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว ที่วัดโคกม่วงซึ่งเทศบาลตำบลภาชี ได้จัดไว้ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 1 พฤษภาคม 2567
4. เมื่อเวลาประมาณ 10.00 และ 15.30 น. คพ. ได้ตรวจสอบคุณภาพอากาศบริเวณโดยรอบโกดังเกิดเหตุ รัศมี 100 เมตร ถึง 2 กิโลเมตร ทั้งหมด 7 จุด บริเวณชุมชนโดยรอบ เช่น โรงเรียน ตลาด มัสยิด และบ้านเรือนประชาชน พบว่าผลการตรวจก๊าซไอระเหยต่ำกว่าขีดจำกัดการรับสัมผัสทางการหายใจเฉียบพลัน ระดับที่ 1 และบริเวณวัดโคกม่วง ซึ่งใช้เป็นศูนย์อพยพประชาชน และอยู่ทางด้านทิศเหนือลม ไม่ได้รับกลิ่นและตรวจไม่พบไอระเหยสารเคมี
5. หลังการระงับเหตุเพลิงไหม้พบมีน้ำปนเปื้อนกรดค่อนข้างสูง จำนวนมากไหลนองเต็มบริเวณพื้นที่ด้านหลังโกดัง ซึ่งอยู่ติดกับคลองสามขวา (คลองชลประทาน) และที่ติดด้านหลังโรงงาน ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะไหลล้นออกสู่พื้นที่ด้านนอก คพ. ได้ดำเนินการเก็บตัวอย่างน้ำผิวดินบริเวณใกล้เคียงโกดังเก็บสารเคมีดังกล่าวซึ่งได้รับผลกระทบจากสารที่ใช้ดับเพลิงและปนเปื้อนสารเคมีรั่วไหลออกสู่ภายนอก เพื่อประเมินการปนเปื้อนและให้ข้อเสนอแนะทางวิชาการในการจัดการที่เหมาะสมและบำบัดฟื้นฟูต่อไป
ทั้งนี้ คพ.จะยังคงเฝ้าระวังและติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศและน้ำในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน นางสาวปรีญาพร กล่าว