นายภูมิพัฒน์ เหมือนจันทร์ โฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงาน กำลังเร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมและคุ้มครองแรงงานอิสระ พ.ศ. ...เสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เร็ว ๆ นี้ ซึ่งถือเป็นมิติใหม่ของกฎหมายแรงงานที่สอดคล้องกับลักษณะการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะการคุ้มครองดูแล “แรงงานอิสระ” ที่มีทั่วประเทศกว่า 20 ล้านคน
สำหรับมีสาระสำคัญของกฎหมาย เรียกง่าย ๆ ว่า “มาตรการ 6 ก” ประกอบด้วย
ทั้งนี้หากกระทรวงแรงงานได้นำร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมและคุ้มครองแรงงานอิสระ พ.ศ. ...เสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบแล้ว จากนั้นจะนำร่างกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาต่อไป
นายภูมิพัฒน์ กล่าวว่า ล่าสุด นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้แต่งตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนการพัฒนาศักยภาพในการประกอบอาชีพอิสระ ภายใต้นโยบาย “หนึ่งตำบล หนึ่งกลุ่มอาชีพอิสระ” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันให้กระทรวงแรงงานเป็นกระทรวงเศรษฐกิจ โดยนายพิพัฒน์ จะเป็นประธานคณะทำงาน และมีผู้แทนส่วนราชการของกระทรวงแรงงานร่วมเป็นคณะทำงาน
“รมว.แรงงาน ต้องการสร้างต้นแบบและส่งเสริมการพัฒนากลุ่มอาชีพอิสระแบบครบวงจรในทุกตำบล ตั้งแต่การขึ้นทะเบียน การพัฒนาฝีมือและผลิตภัณฑ์ เงินกู้เพื่อประกอบอาชีพ การประกันสังคม และการเชื่อมโยงไปสู่ผู้ซื้อ เพื่อสร้างรายได้และความมั่นคงในชีวิตของกลุ่มอาชีพอิสระและครอบครัว โดยเน้นย้ำเรื่องมาตรฐานของสินค้าเพื่อยกระดับให้มีคุณภาพและราคาที่สูงขึ้น” นายภูมิพัฒน์ กล่าว
พร้อมทั้งจะประสานงานกับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และอื่น ๆ เพื่อจัดหาตลาด เช่น ตลาดสาขาขององค์การตลาด งานแสดงสินค้าที่จัดขึ้นตลอดทั้งปี และแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าให้มากขึ้น
ปัจจุบันประเทศไทยมีแรงงานอิสระถึง 20 ล้านคน ครอบคลุมหลากหลายอาชีพ เช่น เกษตรกร พ่อค้าแม่ค้า ผู้รับจ้างหรือให้บริการ ผู้รับงานไปทำที่บ้าน ผู้ให้บริการขนส่งคน สิ่งของ อาหาร ทำความสะอาด หรืออื่น ๆ ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล หรือไรเดอร์ ดังนั้นการดูแลคนกลุ่มนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญ
โฆษกกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า รมว.แรงงาน เล็งเห็นถึงศักยภาพของแรงงานอิสระทั่วประเทศ และรับทราบปัญหาของคนกลุ่มนี้ โดยเฉพาะการสร้างรายได้และหลักประกันความมั่นคง ซึ่งถือเป็นโจทย์ของเราที่จะต้องดูแลอย่างเป็นระบบและครบวงจร กระทรวงแรงงานจึงอยากเติมเต็มความสุขให้กับผู้ใช้แรงงานทุกกลุ่ม โดยไม่จำกัดเฉพาะแต่แรงงานในระบบเท่านั้น เพื่อให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น