นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้ร่วมคณะนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่กาญจนบุรี ติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการน้ำ ตรวจเยี่ยมอุตสาหกรรมโคนม การค้าชายแดน พร้อมเร่งพัฒนาโครงข่ายคมนาคมและโลจิสติกส์ ส่งเสริมการท่องเที่ยว
นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่แก้มลิง กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีแผนพัฒนาพื้นที่ย่านสถานีกาญจนบุรี เนื้อที่ 124 ไร่ แบ่งการพัฒนาเป็น 3 โซน ประกอบด้วย
1.พื้นที่ตลาดกลางค้าปลีก - ค้าส่ง 40 ไร่
2.โซน B พื้นที่อยู่อาศัยระยะยาว โครงการบ้านเพื่อคนไทย 41 ไร่
3.โซน C พื้นที่สวนสาธารณะและแก้มลิง 43 ไร่ ปัจจุบันมีน้ำอยู่ประมาณ 32,640 ลูกบาศก์เมตร สามารถรองรับน้ำเพิ่มได้อีก 22,000 ลูกบาศก์เมตร
ทั้งนี้ หาก รฟท. ขุดลอกลึกเพิ่มอีก 1 เมตร จะสามารถรองรับน้ำเพิ่มขึ้นได้อีก 27,200 ลูกบาศก์เมตร รวมเป็น 49,200 ลูกบาศก์เมตร
ทั้งนี้รฟท.ได้ดำเนินโครงการก่อสร้างขยายช่องระบายน้ำทางรถไฟ จำนวน 2 จุด เพื่อสอดรับกับโครงการระบบระบายน้ำบ้านหัวนาล่างของกรมโยธาธิการและผังเมือง เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของแก้มลิง โดยได้จัดสรรงบประมาณ ปี 2567 สำหรับดำเนินการ คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างภายในเดือนกรกฎาคม 2567 ใช้ระยะเวลาดำเนินการ 180 วัน
นอกจากนี้กระทรวงคมนาคมมีแผนพัฒนาเชื่อมโยงโครงข่ายการเดินทางในจังหวัดกาญจนบุรี อาทิ การผลักดันโครงการก่อสร้างถนนวงแหวนตะวันตก - ตะวันออก (เหนือ - ใต้) เพื่อรองรับการท่องเที่ยว โดยคาดว่าเมื่อโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (M81) แล้วเสร็จ จะมีนักท่องเที่ยวใช้เดินทางเข้า - ออก จังหวัดกาญจนบุรี เป็นจำนวนมาก ทำให้ถนนเส้นหลักที่เชื่อมต่อกับ M81 การจราจรหนาแน่น
ขณะเดียวกันกรมทางหลวงชนบท จึงมีการศึกษาเพื่อออกแบบก่อสร้างถนนวงแหวนเพื่อช่วยรองรับการจราจรที่หนาแน่นขึ้นในอนาคต ประกอบด้วย 1. โครงการศึกษาเพื่อการออกแบบถนนวงแหวนฝั่งเหนือ เมืองกาญจนบุรี เป็นโครงการศึกษาเพื่อออกแบบตัดถนนใหม่เป็น 4 ช่องจราจร มีระยะทางรวม 30 กิโลเมตร
2.โครงการศึกษาเพื่อการออกแบบถนนวงแหวนฝั่งใต้ พร้อมสะพานโครงสร้างพิเศษข้ามแม่น้ำแม่กลอง เป็นโครงการศึกษาเพื่อการออกแบบตัดถนนใหม่โดยเป็นถนน 4 ช่องจราจร มีระยะทางรวม 55 กิโลเมตร พร้อมศึกษาเพื่อการออกแบบสะพานโครงสร้างพิเศษข้ามแม่น้ำแม่กลอง เพื่อลดความหนาแน่นของการจราจรถนนสายหลักที่เชื่อมต่อกับ M81
ทั้ง 2 โครงการใช้ระยะเวลาศึกษาออกแบบ 2 ปี (2569 - 2570) เมื่อโครงการก่อสร้างต่าง ๆ เสร็จสมบูรณ์ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายการคมนาคมขนส่งของจังหวัด พื้นที่ใกล้เคียงและเชื่อมโยงการเดินทาง การขนส่งกับภูมิภาคอื่น ๆ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย สามารถรองรับปริมาณการเดินทางและการขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้นในอนาคต เป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำถึงเรื่องการค้าขายชายแดนที่มีการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งที่ดี มีประสิทธิภาพรองรับรถไฟทางคู่ หรือรถไฟฟ้า สามารถร่นระยะเวลาในการขนส่งสินค้าได้เร็วขึ้น