สนค. เร่งหา "สินค้าระดับรอง" หนุนการส่งออกหวังเพิ่มมูลค่า

18 มิ.ย. 2567 | 02:30 น.

สนค. เตรียมผลักดัน "สินค้าระดับรอง" ที่มีแนวโน้มการเติบโตแต่มูลค่าส่งออกน้อย เพื่อตอบสนองนโยบายการดูแลสินค้าแบบเท่าเทียมและผลักดันสู่การส่งออกมากขึ้น

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สนค. ได้รับมอบหมายจากนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้ทำการศึกษาวิเคราะห์ผลักดันการส่งออก “สินค้าระดับรอง” ให้มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น

จากข้อมูลการส่งออกสินค้าของไทยพบว่า การส่งออกสินค้าในแต่ละหมวด มีการกระจุกตัวอยู่ที่ “สินค้าหลัก” มาเป็นระยะเวลายาวนาน ซึ่งในปัจจุบัน สินค้ากลุ่มดังกล่าวต้องเผชิญกับการแข่งขันที่สูงขึ้นและการเติบโตที่ลดลง ส่งผลให้การส่งออกของไทยยังไม่สามารถขยายตัวได้อย่างเต็มศักยภาพเท่าที่ควร นอกจากกลยุทธ์การเปิดตลาดใหม่และเพิ่มส่วนแบ่งจากตลาดเดิมแล้ว มีความจำเป็นที่จะต้องผลักดันสินค้าตัวเด่นระดับรอง ซึ่งเป็นสินค้าที่มีศักยภาพ มีการเติบโตได้ดี และมีความต้องการจากตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีมูลค่าการส่งออกน้อย

ข้อมูลการส่งออกในปี 2566 เผยให้เห็นว่า สินค้าส่งออก 20 อันดับแรกของไทย ค่อนข้างกระจุกตัวในสินค้ากลุ่มเดิม ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น “สินค้าหลัก” ที่เป็น “พระเอก” ในการส่งออกของไทย ที่มีมูลค่าการส่งออกมากถึง 181,864.9 ล้านดอลลาร์ หรือ 6,270,411.4 ล้านบาท คิดเป็น 63.9% ของมูลค่าการส่งออกรวม ประกอบไปด้วย 

  • รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 
  • เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ 
  • อัญมณีและเครื่องประดับ 
  • ผลิตภัณฑ์ยาง 
  • แผงวงจรไฟฟ้า 
  • ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง 
  • เครื่องปรับอากาศ เป็นต้น

สนค. จึงได้วิเคราะห์สินค้าส่งออกที่เหลือ ซึ่งมีมูลค่า 102,696.9 ล้านดอลลาร์ หรือ 3,538,596.3 ล้านบาท หรือคิดเป็น 36.1% ของมูลค่าการส่งออกรวม จากการวิเคราะห์แนวโน้มการเติบโตและความต้องการของโลกภายหลังจากการระบาดของโควิด-19 พบว่า “สินค้าระดับรอง” ที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี มีความน่าสนใจ มีศักยภาพในการส่งออกเพื่อผลักดันให้มีมูลค่าส่งออกเพิ่มมากขึ้น เช่น 

  • หมวดสินค้าเกษตร อาทิ สับปะรดสด ทุเรียนแช่เย็นจนแข็ง ลำไยแช่เย็นจนแข็ง ข้าวโพดอ่อนสดหรือแช่เย็น ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง ไข่ไก่สด ถั่วเขียวผิวมัน และถั่วเขียวผิวดำ 
  • สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร อาทิ อาหารสัตว์เลี้ยง ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่น ๆ ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ สิ่งปรุงรสอาหาร นมและผลิตภัณฑ์นม และไอศกรีม 
  • สินค้าอุตสาหกรรม อาทิ รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ แผงสวิทซ์และแผงควบคุมกระแสไฟฟ้า เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์  ผลิตภัณฑ์เภสัชภัณฑ์ เครื่องกีฬาและเครื่องเล่นเกม 

นายพูนพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ สนค. อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ข้อมูลในรายละเอียดเพิ่มเติม เพื่อระบุ “สินค้าระดับรอง” และจัดทำข้อเสนอแนะแนวทางการดำเนินการผลักดันเพื่อเพิ่มมูลค่าการส่งออก อย่างไรก็ดี กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมไปถึงภาคเอกชนและผู้ประกอบการ จำเป็นต้อง บูรณาการความร่วมมือ เพื่อร่วมกันหาแนวทางและกลยุทธ์ผลักดันการส่งออก “สินค้าระดับรอง” ของไทย รวมไปถึงการวิเคราะห์หาตลาดใหม่ ๆ เพื่อเร่งขยับตัวเลขส่งออก ตามนโยบาย “ขยายตลาดเดิม เสริมตลาดใหม่” ของรัฐบาล และเพื่อให้การส่งออกยังสามารถเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์ที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยต่อไป