ศุลกากรคาดสิ้นปีงบ 67 เก็บรายได้เกินเป้า 3 พันล้านบาท เข้มจับของเถื่อน

12 ก.ค. 2567 | 09:24 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ก.ค. 2567 | 09:24 น.

ศุลกากรคาดสิ้นปีงบ 67 เก็บรายได้เกินเป้า 3 พันล้านบาท เพิ่มประสิทธิภาพจัดเก็บ “เข้มจับของเถื่อน-นำของกลางออกประมูล”

นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า การจัดเก็บรายได้ 9 เดือน ของกรมศุลกากรปีงบประมาณ 2567 (1 ต.ค. 2566 – 30 มิ.ย.2567) รวมทั้งสิ้น 469,662 ล้านบาท แบ่งเป็น การจัดเก็บรายได้ศุลกากรจำนวน 88,432 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 2,802 ล้านบาท หรือ 3.3% และการจัดเก็บรายได้แทนหน่วยงานอื่น จำนวน 381,231 ล้านบาท

  • จัดเก็บแทนกรมสรรพากร 293,928 ล้านบาท
  • กรมสรรพสามิต 49,676 ล้านบาท
  • กระทรวงมหาดไทย 37,626 ล้านบาท 

ทั้งนี้ กรมศุลกากรยังคงดำเนินมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ อาทิ การอุดรอยรั่วไหลในการจัดเก็บภาษีอากรอย่างต่อเนื่อง และเร่งรัดจัดเก็บรายได้เพิ่มเติม ด้วยการนำของกลางออกมาประมูล ซึ่งคาดว่าสิ้นปีงบประมาณนี้จะจัดเก็บรายได้เกินเป้าหมายกว่า 3,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3% 

“การจัดเก็บรายได้ของกรม เฉลี่ยปีละ 6 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้ของกรม 1 แสนล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นการจัดเก็บให้กับหน่วยงานอื่น 5 แสนล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการจัดเก็บแทนสรรพากร”

ส่วนการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ปราบปรามการกระทำความผิดทางศุลกากรและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง กรมศุลกากรได้เพิ่มความเข้มงวดในการดำเนินงานตามด่านศุลกากรในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ อีกทั้งเพิ่มความเข้มข้นในการลาดตระเวนและตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ตามช่องทางเข้าออกตามแนวชายแดน ช่องทางธรรมชาติ ท่าข้ามต่าง ๆ ทั้งในเส้นทางหลักและเส้นทางรอง 

ทั้งนี้ เพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำความผิด โดยเฉพาะการลักลอบลำเลียงยาเสพติด สิ่งของ สินค้าผิดกฎหมายทุกชนิด อาทิ ยาเสพติด บุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ บุหรี่กัญชา สินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน (สมอ.) สินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา สินค้าเกษตรรวมถึงยางพารา สุกรและส่วนอื่นที่บริโภคได้ของสุกร น้ำมันเชื้อเพลิง 

นอกจากนั้นยังบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประสานข้อมูลด้านการข่าวและลงพื้นที่ปราบปรามผู้กระทำผิดในการลักลอบนำสิ่งผิดกฎหมายเข้ามาในและออกไปนอกราชอาณาจักร โดยตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 – 30 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา กรมศุลกากรตรวจยึดสิ่งผิดกฎหมายเข้ามาในและออกไปนอกราชอาณาจักร จำนวนรวมทั้งสิ้น 3,611 คดีมูลค่า 1,282 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้นถึง 30%

“กรมศุลกากรได้เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันและปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง และอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติพิธีการให้มีความรวดเร็ว ลดขั้นตอน โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาช่วยในการปฏิบัติงาน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและความยั่งยืนทางเศรษฐกิจของประเทศต่อไป”

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา กรมศุลกากรได้ออกประกาศกรมศุลกากร ที่ 129/2567เรื่อง หลักเกณฑ์และการปฏิบัติพิธีการศุลกากรสำหรับการยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับการนำเข้าของที่มีมูลค่าไม่เกิน 1,500 บาทเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมระหว่างผู้ขายในต่างประเทศซึ่งไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม กับผู้ขายในประเทศที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 

โดยยังคงยกเว้นอากรให้สำหรับของที่มีมูลค่าไม่เกิน 1,500 บาท ตามประกาศกรมศุลกากร ที่ 116/2567 ประกอบกับประกาศกระทรวงการคลัง มีผลทำให้ของที่นำเข้าที่มีราคาตั้งแต่ 1 บาท ขึ้นไป ต้องชำระภาษีสรรพสามิตและภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม พ.ศ. 2567

ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวราบรื่น โดยเฉลี่ยมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีมูลเพิ่มวันละ 3.6 ล้านบาท ยืนยันว่า การดำเนินการดังกล่าวไม่ได้เป็นการเน้นจัดเก็บรายได้ แต่เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ประกอบการในประเทศ