วันนี้ (4 สิงหาคม 2567) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับแอปพลิเคชัน ทางรัฐ ซึ่งใช้ลงทะเบียนในโครงการเติมเงิน 10000 บาท ผ่าน Digital Wallet หรือ เงินดิจิทัลวอลเล็ต ว่า แอปทางรัฐ เป็นเพียงช่องทางในการเชื่อมโยงข้อมูลและบริการจากหน่วยงานต้นทาง โดยไม่ได้เก็บข้อมูลประชาชนจากหน่วยงานต้นทางมาไว้ที่แอปฯ ทางรัฐแต่อย่างใด
ส่วนข้อมูลส่วนบุคคล ที่แสดงในแอปฯ ทางรัฐ สามารถเข้าถึงได้เฉพาะเจ้าของข้อมูล และผู้มีอำนาจตามกฎหมายในการเข้าถึงข้อมูลเท่านั้น ขณะที่ ข้อสงสัยของประชาชนที่ว่า แอปทางรัฐเป็นระบบเปิดที่เชื่อมต่อไปถึงบัญชีธนาคารของทุกคนหรือไม่นั้น โฆษกรัฐบาล ระบุว่า แอปทางรัฐ ยังไม่มีการเชื่อมกับบัญชีธนาคารและไม่มีการเก็บข้อมูลบัญชีธนาคารของประชาชนแต่อย่างใด
ทั้งนี้แอปฯ ทางรัฐ อนุญาตให้หน่วยงานของรัฐเชื่อมโยงข้อมูลและบริการของตนเข้าสู่แอปพลิเคชันทางรัฐเท่านั้น ภายใต้วิธีการเชื่อมต่อที่มีการควบคุมกำกับดูแล และมีความมั่นคงปลอดภัยสูง ซึ่งแอปฯ ของธนาคาร และผู้ให้บริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่เข้าร่วมโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่าน Digital Wallet ต้องเชื่อมโยงและรับส่งข้อมูลกับแพลตฟอร์มการชําระเงินกลาง (Payment Platform) ของภาครัฐเพื่อรองรับการชำระเงิน ซึ่งเป็นคนละระบบกับแอปฯ ทางรัฐ
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับแอปฯ ทางรัฐ นั้น ยอมรับว่า ทางรัฐ คือแอปพลิเคชันของภาครัฐที่พัฒนาขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางบริการภาครัฐสำหรับประชาชนที่มีการเชื่อมข้อมูล และบริการจากส่วนราชการต่างๆ มาไว้ในที่เดียวกัน เพื่อให้ประชาชนในทุกช่วงวัยสามารถใช้บริการออนไลน์ของภาครัฐได้ในแอปฯ เดียวอย่างสะดวก รวมถึงเป็นช่องทางในการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่าน Digital Wallet
ส่วนกรณีประชาชนจะเข้าใช้งานแอปฯ ทางรัฐ จำเป็นต้องมีการพิสูจน์ว่าผู้ที่กำลังจะเข้าใช้งานแอปฯ ทางรัฐ เป็นประชาชนตัวจริงหรือไม่นั้น ชี้แจงว่า การให้ประชาชนผู้นั้นถ่ายภาพใบหน้า และภาพบัตรประจำตัวประชาชนของตนเอง เพื่อเอาไปเปรียบเทียบกับภาพใบหน้าและข้อมูลบัตรประชาชนของประชาชนผู้นั้นที่มีอยู่ในระบบของภาครัฐว่าตรงกันหรือไม่ หรือที่เรียกว่าการทำ KYC (Know Your Customer) เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นเข้าถึงข้อมูลของประชาชนผู้นั้น หรือสวมสิทธิ์
ทั้งนี้ถือเป็นมาตรการการป้องกันและรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือแบบเดียวกับที่ธนาคารในประเทศไทยใช้ (IAL 2.3) ตามประกาศของคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังยืนยันว่า แอปฯ ทางรัฐ มีมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบและข้อมูลต่าง ๆ ดังนี้
โฆษกรัฐบาล ระบุว่า มีการพิสูจน์ได้จากวันแรกที่เปิดรับลงทะเบียนโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่าน Digital Wallet ซึ่งมีผู้ไม่ประสงค์ดีพยายามโจมตีระบบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างหนัก ตั้งแต่ชั่วโมงแรกที่เปิดรับลงทะเบียน โดยเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนกดเข้าใช้งานแอปฯ ทางรัฐเป็นจำนวนมหาศาลเช่นเดียวกัน
แต่แอปฯ ทางรัฐก็ยังสามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง โดยสามารถรองรับการลงทะเบียนฯ ได้ถึง 18.8 ล้านคนภายใน 24 ชั่วโมงโดยระบบไม่ล่มและไม่มีปัญหาเรื่องข้อมูลรั่วไหลด้วย