“จุลพันธ์” แจง “ดิจิทัล วอลเล็ต” ไม่แจกเงินสด วางฐานรากดิจิทัลระยะยาว

06 ส.ค. 2567 | 10:45 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ส.ค. 2567 | 10:45 น.

”จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์“ รมช.คลัง แจงสภาฯ “แจกเงินดิจิทัล” จำเป็นต้องกู้เพิ่ม เติมเงินลงระบบเศรษฐกิจ ชี้ไม่แจกเงินสด ต้องการวางฐานรากดิจิทัลระยะยาว

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงข้อสังเกต และข้อสงสัยของสมาชิกวุฒิสภาฯ กรณีพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 พ.ศ.... วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการเติมเงินหมื่นผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ว่า

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

รัฐบาลยืนยันว่า งบประมาณดังกล่าว เป็นไปตามกรอบกฎหมาย และวินัยการเงินการคลัง พร้อมยอมรับว่า รัฐบาล จำเป็นจะต้องมีการกู้หนี้เพิ่มเติม เพื่อเติมเงินใส่ในระบบเศรษฐกิจ และกระตุ้นเศรษฐกิจในการเดินหน้าโครงการ

ส่วนกรณีมีข้อสังเกตเหตุใดรัฐบาลไม่จ่ายเป็นเงินสดนั้น นายจุลพันธ์ ชี้แจงว่า กลไกที่รัฐบาลกำหนด เป็นกลไกลใหม่ ต่างจากอดีต ที่แจกเป็นเงินสด เพราะอาจทำให้ประชาชน ออมไว้ส่วนหนึ่ง ไม่ยอมใช้จ่าย ทำให้ไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้เต็มที่ 

และรัฐบาล ต้องการให้เม็ดเงินกระจายตัวอยู่ในความเหมาะสม ไม่ให้กระจุกตัวอยู่ในตัวเมือง และสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้หมุนอยู่ในระบบได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ตามที่รัฐบาลต้องการ 

“ยกตัวอย่าง เช่น ในจังหวัดเชียงใหม่ หากรัฐบาลกำหนดให้ใช้เป็นดิจิทัล วอลเล็ต ในอำเภอแม่ริม ซึ่งมีประชากรจำนวนประมาณ 80,000 คน ก็จะมีเงินหมุนอยู่ในอำเภอ 800 ล้านบาท แต่หากแจกเป็นเงินสด ประชาชนก็จะไปใช้เงินในอำเภอเมืองเชียงใหม่มากกว่า และหากร้านค้า ต้องการจะขึ้นเป็นเงินสด ก็สามารถทำได้ในการหมุนรอบที่ 2 และเงินสดก็จะยังคงหมุนเวียนในระบบ มีผลระยะยาว”

ขณะเดียวกัน กลไกนี้ ไม่ใช่เพียงการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เป็นการวางรากฐานดิจิทัลระยะยาว ให้คนไทยพร้อมรองรับเศรษฐกิจดิจิทัล รวมถึงข้อมูลประชาชนต่าง ๆ จะเป็นประโยชน์ต่อภาครัฐในการกำหนดนโยบายได้อย่างตรงจุด พร้อมย้ำว่า แอพลิเคชันทางรัฐ มีความปลอดภัยแน่นอน

นายจุลพันธ์ ยังย้ำว่า ในการใช้จ่ายนั้น รัฐบาลได้วางกลไกไม่ให้เกิดการกระจุกตัวกับรายใหญ่ และกระจายตัวง่ายต่อการใช้งาน ดังนั้น จึงสามารถซื้อของจากร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก วิสาหกิจชุมชนของประชาชนในท้องถิ่น ได้ รวมไปถึงร้านหาบเร่แผงลอย ที่แม้ไม่เสียภาษี ก็สามารถลงทะเบียนได้ แต่ไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ พร้อมยืนยันว่า รัฐบาล จะเปิดลงทะเบียนร้านค้า ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้

ส่วนประชาชนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน หรือโทรศัพท์มือถือในการลงทะเบียนรับสิทธิ์นั้น นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ประชาชนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน หรือโทรศัพท์มือถือในการลงทะเบียน รัฐบาลจะเปิดลงทะเบียนในวันที่ 16 กันยายน – 15 ตุลาคม 2567 โดยจะต้องลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรัฐ และใช้บัตรประชาชนในการซื้อสินค้า ซึ่งอาจจะไม่สะดวก และมีความซับซ้อนกว่า

ทั้งนี้ ยังได้ชี้แจงกรณีที่มีสมาชิกวุฒิสภาตั้งข้อสังเกตโครงการดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาลหวังผลการเมือง โดยยืนยันว่า โครงการนี้ฯ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล ไม่เกี่ยวกับการเลือกตั้งที่ผ่านมาแล้ว และเป็นสัญญาประชาคม ที่รัฐบาลได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา จึงจะต้องเดินหน้า ไม่มีความเป็นพรรคการเมือง เพราะทุกพรรคอยู่ร่วมกันในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล 

โดยภายหลังที่วุฒิสภา ให้ความเห็นชอบเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 เพิ่มเติม กรอบวงเงิน 122,000 ล้านบาทแล้ว ประธานวุฒิสภา จะส่งร่างงบประมาณ กลับคืนไปยังนายกรัฐมนตรี เพื่อให้นำขึ้นทูลเกล้าฯ ตามขั้นตอน และประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาต่อไป 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมวุฒิสภา มีมติเสียงข้างมาก 139 เสียง ต่อ 38 เสียง ให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 เพิ่มเติม กรอบวงเงิน 122,000 ล้านบาท  ที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นำเสนอต่อวุฒิสภา โดยเป็นการพิจารณาแบบไม่ตั้งกรรมาธิการ ซึ่งมีผู้งดออกเสียง 18 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียง ภายหลังได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรมาแล้วในวาระที่ 3