นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาล ในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 67 (ต.ค.66 –มิ.ย.67) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิจำนวน 2.01 ล้านล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 26,169 ล้านบาท หรือ 1.3% และมีแนวโน้มลดลงจากในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ แต่สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.8%
โดยฐานการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วงเดียวกันของปีก่อน มีรายได้พิเศษรวม 55,579 ล้านบาท หากไม่รวมรายได้พิเศษดังกล่าวรายได้รัฐบาลสุทธิจะสูงกว่า ช่วงเดียวกันของปีก่อน 5.8% ทั้งนี้ กรมสรรพากร กรมศุลกากร รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่น จัดเก็บรายได้สูงกว่าประมาณการ
ยกเว้นการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิต ที่ทำได้ต่ำกว่าเป้าหมาย หลังได้รับผลกระทบจากมาตรการปรับลดอัตราภาษีน้ำมันดีเซล และน้ำมัน เบนซิน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานแก่ประชาชนและผู้ประกอบการและมาตรการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า
ทั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ และผลักดัน ให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาค แต่ภาพรวมการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 12.3%
“กระทรวงการคลังมีความมั่นใจว่าสามารถบริหารจัดการการจัดเก็บรายได้ในปีนี้ให้เป็นไปตามเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างฐานะการคลังให้มีความมั่นคงพร้อมสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณเพื่ออัดฉีดเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจให้ได้มากที่สุด”
สำหรับการจัดเก็บรายได้ ในช่วง 9 เดือน ของปีงบประมาณ 2567 มีรายละเอียด ดังนี้
นายพรชัย กล่าวว่า ฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 9 เดือนของปี งบประมาณ 67 รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 2 ล้านล้านบาท ขณะที่มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้น 2.53 ล้านล้านบาท โดยรัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 428,170 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนมิ.ย.67 มีทั้งสิ้น 449,980 ล้านบาท