เปิดโมเดลจัดเก็บรายได้สถานบันเทิงครบวงจร 5 ประเทศพัฒนาเเล้ว

08 ส.ค. 2567 | 08:29 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ส.ค. 2567 | 08:31 น.

ธุรกิจกาสิโนและสถานบันเทิงครบวงจรผ่าน 5 ประเทศชั้นนำ เจาะลึกนโยบาย กฎหมาย ภาษี การจัดเก็บรายได้ ผลกระทบทางเศรษฐกิจ เปิดเผยกลยุทธ์การบริหารจัดการที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศ

KEY

POINTS

  • ประเทศพัฒนาเเล้วมีวิธีการจัดการธุรกิจการพนันและสถานบันเทิงที่แตกต่างกัน แต่ทุกประเทศมีการควบคุมอย่างเข้มงวดโดยรัฐบาล 
  • ธุรกิจการพนันและสถานบันเทิงสร้างรายได้มหาศาลให้กับประเทศ ทั้งในรูปแบบของภาษีที่จัดเก็บในอัตราสูง กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยว จ้างงาน 
  • ทุกประเทศต้องพยายามสร้างสมดุลระหว่างการใช้ประโยชน์จากธุรกิจนี้ในการพัฒนาเศรษฐกิจกับการป้องกันผลกระทบทางสังคม 

เคยสงสัยไหมว่าทำไมประเทศพัฒนาแล้วหลายแห่งถึงเปิดรับ ธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ Entertainment Complex อย่างเต็มตัว หลายคนอาจนึกถึงภาพคาสิโนหรูหรา แสงสีเสียงตระการตา แต่ความจริงแล้ว ซ่อนกลไกที่ซับซ้อนและน่าสนใจมากกว่านั้น ลองมาดูกันว่าทำไมธุรกิจนี้ถึงได้รับความนิยมในประเทศพัฒนาแล้ว

เหตุผลก็เพราะว่าประเทศเหล่านี้มีระบบกฎหมายที่ครอบคลุมและเข้มงวด ทำให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างโปร่งใสและมีความรับผิดชอบ ไม่ใช่แค่อนุญาต แต่รัฐบาลยังมีส่วนร่วมในการกำกับดูแลและได้รับผลประโยชน์โดยตรง มีการแบ่งรายได้ส่วนหนึ่งไปทำโครงการเพื่อสังคม (Corporate Social Responsibility) อย่างจริงจัง

องค์กรการกุศลและรัฐบาลท้องถิ่นได้รับส่วนแบ่งรายได้ ทำให้เกิดการพัฒนาในระดับชุมชน สถานบันเทิงครบวงจรกลายเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยว สร้างรายได้มหาศาล นอกจากการจ้างงานโดยตรง ยังกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ

สถานบันเทิงแบบครบวงจร มุมมอง 5 ประเทศชั้นนำ

ในโลกของความบันเทิงและการท่องเที่ยว ธุรกิจสถานบันเทิงแบบครบวงจรมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของหลายประเทศ แต่ละประเทศมีวิธีการจัดการที่แตกต่างกันไป มาดูกันว่า 5 ประเทศพัฒนาเเล้วมีแนวทางอย่างไร

สหรัฐฯ แดนเสรีภาพแห่งการพนัน

สหรัฐเป็นประเทศที่มีความหลากหลายในด้านกฎหมายการพนัน โดย 38 มลรัฐอนุญาตให้มีการประกอบธุรกิจกาสิโน ยกเว้นฮาวายและยูทาห์ที่ห้ามการพนันทุกรูปแบบ การพนันที่ถูกกฎหมายในสหรัฐฯ แบ่งเป็น 5 ประเภทหลัก ได้แก่ กาสิโนเชิงพาณิชย์ การพนันเพื่อการกุศล สลากกินแบ่ง การพนันของชนพื้นเมืองอินเดียนแดง และการพนันทายผลการแข่งขัน

จัดเก็บรายได้จาก Entertainment Complex

ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา สหรัฐฯ มีรายได้เฉลี่ยจากธุรกิจการพนันสูงถึง 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี โดยแบ่งเป็น

  • รายได้จากกาสิโนเฉลี่ย 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี
  • การจัดเก็บภาษีจากธุรกิจกาสิโนขึ้นอยู่กับกฎหมายของแต่ละมลรัฐ
  • บางมลรัฐสามารถจัดเก็บได้สูงถึง 51% ของรายรับ

เครดิตภาพ : reuters

ยังมีกฎหมายพิเศษสำหรับชนพื้นเมืองอินเดียนแดง ที่อนุญาตให้ประกอบธุรกิจการพนันในพื้นที่ของตนเอง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของชนเผ่า

ออสเตรเลีย ดินแดนแห่งเครื่องเล่นเกมอิเล็กทรอนิกส์

การพนันในออสเตรเลียเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม โดยเฉพาะเครื่องเล่นเกมอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Gaming Machines: EGMs) ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา การบริหารนโยบายควบคุมธุรกิจการพนันอยู่ในความรับผิดชอบของรัฐบาลในแต่ละรัฐ

จัดเก็บรายได้จาก Entertainment Complex

รัฐบาลกลางของออสเตรเลียออกกฎหมายควบคุมการพนันออนไลน์ในปี 2544 เพื่อควบคุมธุรกิจการพนันออนไลน์และคุ้มครองประชากรออสเตรเลีย การจัดเก็บภาษีจากธุรกิจกาสิโนขึ้นอยู่กับกฎหมายของแต่ละรัฐ โดยบางรัฐสามารถจัดเก็บได้สูงถึง 65% ของรายรับ

  • ช่วงปี 2562-2563 ธุรกิจการพนันในออสเตรเลียสร้างรายได้ภาษีให้แก่รัฐบาลประมาณ 6.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • เป็นภาษีจากธุรกิจกาสิโน 685 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • ยังมีการจัดตั้งกองทุน "Community Contribution and Harm Prevention Funds" เพื่อนำรายได้จากภาษีการพนันไปใช้เพื่อประโยชน์ของสังคม

เดนมาร์ก ประเทศเล็กแต่กาสิโนเยอะ

แม้จะเป็นประเทศขนาดเล็ก แต่เดนมาร์กมีกาสิโนถึง 6 แห่ง ตั้งอยู่ในเมืองใหญ่ ๆ ของประเทศ โดยมี The Danish Gambling Authority ทำหน้าที่ควบคุมและดูแลกฎหมายเกี่ยวกับการพนัน

จัดเก็บรายได้จาก Entertainment Complex

ธุรกิจการพนันในเดนมาร์กแบ่งเป็น 4 ประเภท ได้แก่ การพนันทั่วไป กาสิโนออนไลน์ เครื่องเล่นเกม และกาสิโนบนบก โดยมีการจัดเก็บภาษีแตกต่างกันไปตามประเภทธุรกิจ ตั้งแต่ 20% ถึง 75 % ของรายรับ

  • ในปี 2564 ธุรกิจการพนันสร้างรายได้ให้แก่เดนมาร์กถึง 853 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • ธุรกิจกาสิโนออนไลน์ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก สร้างรายได้ถึง 385 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

อังกฤษ วัฒนธรรมการพนันที่ยาวนานกว่าศตวรรษ

การพนันในอังกฤษถือเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมมากกว่า 100 ปี โดยแบ่งประเภทของการพนันเป็น 3 ลักษณะ ได้แก่ เกมพนัน การเดิมพัน และลอตเตอรี่ ปัจจุบันอังกฤษมีกาสิโนทั้งหมด 156 แห่ง

จัดเก็บรายได้จาก Entertainment Complex

การพนันในอังกฤษอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Gambling Commission

  • รัฐบาลจัดเก็บภาษีจากธุรกิจการพนันในอัตรา 15-50% ของรายรับ ขึ้นอยู่กับประเภทและลักษณะของธุรกิจ
  • ในปี 2563 รายได้จากธุรกิจการพนันในอังกฤษอยู่ที่ 1.72 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • ธุรกิจประเภทการพนันออนไลน์มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ธุรกิจกาสิโนมีสัดส่วนของรายได้สูงถึง 28 % ของรายได้จากธุรกิจในอุตสาหกรรมนี้

สิงคโปร์ น้องใหม่ที่มาแรง

สิงคโปร์อนุญาตให้มีธุรกิจกาสิโนที่ถูกกฎหมายครั้งแรกในปี 2553 โดยมีเพียง 2 แห่ง คือ Resorts World Sentosa และ Marina Bay Sands และมีนโยบายควบคุมจำนวนไว้เพียงเท่านี้จนถึงปี 2573

จัดเก็บรายได้จาก Entertainment Complex

สิงคโปร์มีมาตรการพิเศษสำหรับพลเมืองของประเทศ โดยต้องเสียค่าเข้ากาสิโนในอัตรารายวันหรือรายปี เพื่อป้องกันปัญหาการติดพนัน

แม้จะเพิ่งเริ่มอนุญาตให้มีกาสิโน แต่สิงคโปร์สามารถส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้อย่างมาก โดยในช่วงก่อนการแพร่ระบาดโควิด-19 Marina Bay Sands เคยเป็นรีสอร์ทกาสิโนที่ทำกำไรมากที่สุดในโลก

รัฐบาลสิงคโปร์จัดเก็บภาษีจากธุรกิจการพนันในอัตรา 22% ของรายรับ และคาดว่าอุตสาหกรรมกาสิโนในสิงคโปร์จะฟื้นตัวในปี 2568

จากตัวอย่างของ 5 ประเทศข้างต้น เห็นได้ว่าแต่ละประเทศมีวิธีการจัดการกับธุรกิจการพนันและสถานบันเทิงแบบครบวงจรที่แตกต่างกัน แต่มีจุดร่วมที่สำคัญคือ การควบคุมอย่างเข้มงวดโดยรัฐบาล การจัดเก็บภาษีในอัตราสูง และการจัดสรรรายได้บางส่วนเพื่อประโยชน์ของสังคม

ข้อมูลอ้างอิง 

  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง