นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ตามนโยบายรัฐบาล เรื่องการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแห่งชาติ (National e-Payment Master Plan) ที่กำหนดให้ทุกภาคส่วนทั้งหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน ลดการใช้เงินสดและเช็ค
โดยกรมศุลกากรได้ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลอย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งปัจจุบันมีการรับชำระค่าภาษีอากร ค่าธรรมเนียม รายได้อื่น หรือเงินประกัน ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เฉลี่ย 80% จากยอดรวมของการรับชำระเงินทุกประเภท
ทั้งนี้ ตามประกาศกรมศุลกากรที่ 69/2566 ลงวันที่ 11 เมษายน 2566 กำหนดให้ผู้ประกอบการที่ชำระค่าภาษีอากรฯ โดยวิธีตัดบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ประกอบการ หรือ Direct Debit และการชำระค่าภาษีอากรฯ ผ่านช่องทางการให้บริการของธนาคารหรือตัวแทนรับชำระ หรือ Bill Payment สามารถพิมพ์ใบเสร็จรับเงิน กศก. 123 จากระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมศุลกากรได้ด้วยตนเอง
โดยไม่ต้องเดินทางมาที่กรมศุลกากร ซึ่งจากการดำเนินงานที่ผ่านมา ผู้ประกอบการมีการพิมพ์ใบเสร็จรับเงิน กศก. 123 ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เป็นจำนวนเฉลี่ย 3 ล้านฉบับต่อปี
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการบูรณาการข้อมูลระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และการดำเนินงานร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม สะดวก รวดเร็ว กรมศุลกากรจึงได้ร่วมมือกับกรมสรรพากรพัฒนาระบบการเชื่อมโยงข้อมูลตามใบเสร็จรับเงิน กศก. 123
โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้กรมสรรพากรนำข้อมูลไปใช้ในการตรวจสอบภาษี และไม่ต้องเรียกใบเสร็จรับเงินจากผู้ประกอบการอันเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการและเป็นประโยชน์ต่อการบริหารจัดเก็บภาษีอากรได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ของกรมศุลกากรที่ได้วางแนวทางไว้ ซึ่งกรมศุลกากรพร้อมส่งข้อมูลให้กรมสรรพากร ได้ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2567
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า พิธีลงนามในบันทึกข้อตกลง ว่าด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลตามใบเสร็จรับเงิน กศก. 123 ระหว่าง กรมสรรพากร และ กรมศุลกากร ในครั้งนี้ เป็นการดำเนินการที่เป็นประโยชน์สำหรับในการบริหารการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากร ข้อมูลใบเสร็จรับเงิน กศก. 123 เป็นข้อมูลที่จำเป็น
และเป็นข้อมูลสนับสนุนสำหรับการปฏิบัติงานตรวจสอบของเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร ซึ่งผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มสามารถนำใบเสร็จรับเงิน กศก. 123 ที่กรมศุลกากรออกให้จากระบบอิเล็กทรอนิกส์มา ถือเป็นใบกำกับภาษีซื้อในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม
“เป็นการอำนวยความสะดวกและลดภาระแก่ผู้ประกอบการที่จะต้องนำส่งเอกสารใบเสร็จรับเงิน กศก.123 เว้นแต่ ไม่ปรากฏข้อมูลใบเสร็จรับเงิน กศก. 123 บนระบบงาน หรือมีเหตุที่ต้องพิสูจน์ความถูกต้องของใบเสร็จรับเงิน กศก. 123 ทั้งนี้ กรมสรรพากรคาดว่าจะเปิดใช้ระบบงานประมาณเดือน ตุลาคม 2567”