แห่ติดแฮชแทค #แบนTemu หลัง“สรรพากร”ระบุไม่เข้าข่ายจดทะเบียน VAT

13 ส.ค. 2567 | 08:20 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ส.ค. 2567 | 08:28 น.

กระแสต่อต้านยักษ์อีคอมเมิร์ซจีน Temu เริ่มจุดติด โลกโซเชียลแห่ติดแฮชแทค #แบนTemu กูรูอีคอมเมิร์ซ เชื่อคนไทยไม่สนับสนุนคนทำธุรกิจไม่ถูกต้อง

นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ซีอีโอ กลุ่มบริษัท efrastructure Group ผู้บุกเบิกวงการอีคอมเมิร์ซ และการตลาดดิจิทัลเมืองไทย กล่าวกับ”ฐานเศรษฐกิจ”ว่ากระแสการต่อต้านแอป Temu  เริ่มจุดติด  หลังจากที่รัฐบาลมีการตอบสนองรวดเร็ว   

แห่ติดแฮชแทค #แบนTemu หลัง“สรรพากร”ระบุไม่เข้าข่ายจดทะเบียน VAT

โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี  ได้มีการสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกรมสรรพากร  กระทรวงพาณิชย์   กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม  หาทางรับมือการเข้ามาของแอป Temu   

อย่างไรก็ตามล่าสุดกรมสรรพากร  ออกมาระบุว่าสถานะของ Temu นั้น ยังไม่เข้าข่ายตามกฎหมายการจดทะเบียนเป็นผู้ประกอบการที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (Vat) ในประเทศไทย เพราะฉะนั้นทำให้ไม่สามารถบังคับให้เขามาจดทะเบียน Vat ได้   ทำให้เริ่มเกิดกระแสการต่อต้าน Temu เริ่มมีมากขึ้นเป็นโลกโซเชียล 

แห่ติดแฮชแทค #แบนTemu หลัง“สรรพากร”ระบุไม่เข้าข่ายจดทะเบียน VAT

แห่ติดแฮชแทค #แบนTemu หลัง“สรรพากร”ระบุไม่เข้าข่ายจดทะเบียน VAT

โดยมีติดแฮชแทค #แบนTemu   รวมถึงคอมเม้นท์เชิงต่อต้านบนเพจ Temu Thailand  อาทิ “ไม่สนับสนุนของจีน โดยที่ไทยไม่ได้ประโยชน์อะไรและมีแต่เงินไหลออกประเทศอย่างเดียว”   หรือ ควรผ่าน มาตรฐานไทย เช่น มอก อย และจ่ายภาษีให้ครบ แล้วค่อยเข้ามาขาย

นายภาวุธ  กล่าวต่อไปอีกว่าขณะนี้สังคมไทยเริ่มตื่นตัว และรับรู้ผลกระทบจากการเข้ามาของ Temu ที่เป็นช่องทางสำคัญในการหลั่งไหลเข้ามาจากสินค้าจีน ทำให้เงินไหลออกและส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการไทย   อย่างไรก็ตามเชื่อว่าคนไทยไม่สนับสนุนธุรกิจที่ไม่ถูกต้องที่เข้ามาทำธุรกิจในไทย  โดยไม่ปฎิบัติตามกฎหมายได้