วันนี้ 14 สิงหาคม 2567 นายวิชัย เบญจรงคกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ และ ประธานบริหาร กลุ่มเบญจจินดา หรือ BENCHACHINDA GROUP หรือ BCG เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" เกี่ยวกับความคิดเห็นต่อคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่มีมติ 5:4 เสียงให้ นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รวมถึง คณะรัฐมนตรี หรือ ครม.ทั้งคณะ ว่า คิดว่าไม่กระทบเศรษฐกิจไทย เพราะเศรษฐกิจไทยสามารถเดินไปได้อยู่มีอุปสงค์และอุปทานที่ขับเคลื่อนโดยภาคเอกชนและเศรษฐกิจโลก การท่องเที่ยว การส่งออกอาหาร แล ะสินค้าที่ผลิตโดยโรงงานของนักลงทุน ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ซึ่งพวกนี้ไม่เกี่ยวกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ถ้ามอง ณ จุดนี้
ส่วนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศเพื่อให้มีกำลังซื้อของผู้มีรายได้ต่ำก็คงต้องรอดูว่ารัฐบาลใหม่จะเป็นใครและจะสานต่อนโยบายเดิมหรือไม่
ส่วนสำคัญที่เป็นตัวแปรของอนาคตเศรษฐกิจไทยน่าจะมาจากผลกระทบของการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกโดยรวม ทั้งในจีน ยุโรป รวมทั้งสงครามในตะวันตกกลาง รวมทั้งในยุโรปตะวันออก จากปัญหาต่างๆในแต่ละประเทศที่จะส่งผลกระทบกับกำลังใข้จ่ายของกิจการและคนในประเทศต่าง (กระทบก็คือซื้อของและท่องเที่ยวน้อยลง
ถ้าสหรัฐยังกดดันเรื่องกีดกันการค้ากับจีน ก็จะกดดันเรื่องการเติบโตของรายได้ภาคการท่องเที่ยวของไทยต่อไป รวมทั้งปัญหาเรื่องสินค้าราคาและคุณภาพต่ำที่ทะลักมาจากจีน รวมทั้งปัญหาจีนเทาที่ต้องออกมาหาเหยื่อในต่างประเทศ มากขึ้น อีกทั้งเศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เมียร์ม่า และ ลาว ที่ตกต่ำมาก ทำให้มียอดขายจากไทยลดลง
“สรุปว่าปัจจัยภายนอกประเทศมีมากกว่าเรื่องการเมือง” นายวิชัย กล่าว
นายวิชัย ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า รัฐบาลใหม่คงต้องพยายามต่อเนื่องในการปรับประเทศให้รับมือกับปัจจัยภายนอกประเทศ ลูกค้าเราอยู่ทั่วโลกในขณะที่ทั่วโลกมีปัญหาต่างๆ เพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจไทยให้เข้มแข็ง.