“สราวุธ ทรงศิวิไล” ส่งไม้ต่ออธิบดีทางหลวงคนใหม่ โหม 7 บิ๊กโปรเจ็กต์

20 ส.ค. 2567 | 23:30 น.

“สราวุธ ทรงศิวิไล” เปิดใจสัมภาษณ์ หลังครบอายุราชการ 1 ต.ค.นี้ เดินหน้าส่งไม้ต่ออธิบดีทางหลวงคนใหม่สานต่อ 7 บิ๊กโปรเจ็กต์

KEY

POINTS

  • “สราวุธ ทรงศิวิไล” เปิดใจสัมภาษณ์ หลังครบอายุราชการ 1 ต.ค.นี้
  • เดินหน้าส่งไม้ต่ออธิบดีทางหลวงคนใหม่สานต่อ 7 บิ๊กโปรเจ็กต์
     

ในทุกๆปี “กรมทางหลวง” ได้รับการจัดสรรงบประมาณกว่าแสนล้านบาท ถือเป็นหน่วยงานภายใต้กระทรวงคมนาคมอันดับ 1 ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณมากที่สุด เนื่องจากหน่วยงานนี้มีโครงการถนนหลายโครงการที่ต้องเร่งดำเนินการตลอดจนการซ่อมบำรุงทางและการเปิดเส้นทางสัญจรใหม่ๆเพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนอย่างต่อเนื่อง

เมื่อปี 2562 นายสราวุธ ทรงศิวิไล เข้ารับตำแหน่งอธิบดีกรมทางหลวงคนที่ 33 ซึ่งอยู่จนครบวาระ 4 ปี หลังจากนั้นคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอในยุคนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2566 โดยเป็นการต่ออายุราชการเพิ่มอีก 1 ปี ทำให้นายสราวุธ ทรงศิวิไล จะครบรอบเกษียณอายุราชการในวันที่ 1 ตุลาคม 2567

ไม่เพียงเท่านั้นจากการผลักดันของนายสราวุธ ทรงศิวิไล ที่มีผลงานโดดเด่นสามารถเดินหน้าบิ๊กโปรเจ็กต์ได้อย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางปะอิน-นครราชสีมา และโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางใหญ่-กาญจนบุรี โดยปัจจุบันทั้ง 2 โครงการ ได้เปิดให้บริการแก่ประชาชนบางช่วงแล้ว

เปิดใจเกษียณอายุราชการ
 นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากที่ผมจะครบวาระการเกษียณอายุราชการนั้น เบื้องต้นได้รับทราบว่านายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) จะเข้ารับตำแหน่งอธิบดีกรมทางหลวงแทน

“ผมรู้สึกสบายใจและไม่ค่อยห่วงสำหรับอธิบดีคนใหม่ที่จะเข้ามารับตำแหน่งแทนผม เนื่องจากเขาถือเป็นอดีตลูกหม้อจากกรมฯ ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสทำงานร่วมกับเขาอย่างใกล้ชิดกว่า 15 ปี เชื่อว่าสามารถเดินหน้าต่อโครงการของกรมฯที่ยังค้างคาได้ต่อเนื่อง” นายสราวุธ กล่าว
 

ดัน 4 บิ๊กโปรเจ๊กต์ลุยงานโยธา

ปัจจุบันยังมีโครงการสำคัญของกรมทางหลวงที่เร่งรัดให้อธิบดีคนใหม่สานต่อหลายโครงการ ประกอบด้วย  1.โครงการก่อสร้างทางยกระดับทางหลวงหมายเลข 35 สายธนบุรี-ปากท่อ ตอนทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน-เอกชัย

2.โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สายทางยกระดับบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว ซึ่งทั้ง 2 โครงการ กรมฯได้ตั้งเป้าหมายเปิดให้บริการได้ภายในปี 2568 3.โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างงานโยธาที่จะเปิดให้บริการได้ภายในกลางปี 2568

4.โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางปะอิน-นครราชสีมา ขณะนี้การก่อสร้างงานโยธาบางช่วงได้มีการเปิดให้บริการแล้ว คาดว่างานโยธาจะแล้วเสร็จทั้งโครงการภายในปี 2568 และเปิดให้บริการเต็มรูปแบบภายในต้นปีหรือกลางปี 2569

 “โครงการเหล่านี้ถือเป็นโครงการขนาดใหญ่สำคัญที่อธิบดีคนใหม่ต้องเร่งเดินหน้าให้จบ เพราะในสมัยที่ผมดำเนินการ ขณะนี้โครงการต่างๆยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างที่ยังไม่แล้วเสร็จและเตรียมเปิดให้บริการ” นายสราวุธ กล่าว

ชงครม.เข็นโปรเจ็กต์ PPP

นายสราวุธ ให้สัมภาษณ์ต่อว่าขณะนี้มีหลายโครงการที่กรมฯเร่งดำเนินการเตรียมเปิดประมูลใช้รูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สายทางยกระดับบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว คาดว่าจะเริ่มเปิดประมูลได้ในช่วงอธิบดีคนใหม่ที่เข้ามาสานงานต่อ

ขณะที่โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 5 ส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุข ช่วงรังสิต – บางปะอิน หรือส่วนต่อขยายดอนเมืองโทรล์ลเวย์ โดยใช้งบประมาณจากกองทุนมอเตอร์เวย์ ,โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 9 สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ด้านตะวันตก ช่วงบางขุนเทียน-บางบัวทอง

และโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 9  สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ด้านตะวันตก ช่วงบางบัวทอง-บางปะอิน

ปัจจุบันทั้ง 3 โครงการ ได้ผ่านความเห็นชอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ขณะนี้เรื่องอยู่ที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อเตรียมบรรจุวาระเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบต่อไป

 สานต่อโปรเจ็กต์ใหม่ รับงบปี 68
 นอกจากนี้ยังมีหลายโครงการที่อธิบดีกรมทางหลวงคนใหม่เร่งรัดภายในปีงบประมาณ 2568 อีกด้วย เบื้องต้นกรมฯได้รับจัดสรรงบประมาณปี 2568 เพิ่มขึ้นกว่า 5,000 ล้านบาท

จากในปีงบประมาณ 2567 ที่ได้รับจัดสรรงบประมาณอยู่ที่ 121,695 ล้านบาท พบว่ามีโครงการใหม่ที่เตรียมประกวดราคาจัดซื้อจัดจ้างประมาณ 4,700 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการที่มีงบประมาณผูกพันที่จะเร่งขอรับจัดสรรงบประมาณในปี 2569

หลังจากนี้ต้องจับตาดูอธิบดีคนใหม่ อดีตลูกหม้อกรมทางหลวงจะเร่งรัดโครงการสำคัญได้ตามแผนที่วางไว้หรือไม่ หากทุกโครงการฯสามารถเปิดให้บริการได้ตามเป้าหมาย เชื่อว่าจะทำให้ประชาชนเดินทางสัญจรผ่านระบบขนส่งทางถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดปัญหาการจราจรติดขัดในอนาคตอีกด้วย