นางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 กรมบัญชีกลางได้ติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายเงินงบประมาณของส่วนราชการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนกลางมีคณะทำงานเฉพาะกิจในการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567
ขณะที่ในส่วนภูมิภาค มีสำนักงานคลังจังหวัด ทั้ง 76 จังหวัด ทำหน้าที่เร่งรัดและสนับสนุนการดำเนินงาน พร้อมทั้งให้คำแนะนำหน่วยรับงบประมาณทุกแห่ง ให้สามารถดำเนินการเบิกจ่ายได้ตามแผนการใช้จ่ายเงิน เพื่อให้เม็ดเงินงบประมาณมีส่วนในการผลักดันการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีได้กำหนดเป้าหมายการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ. 2567
สำหรับในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (ต.ค. 66 - ก.ย. 67) กรมบัญชีกลางสามารถเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของหน่วยรับงบประมาณต่าง ๆ เกินเป้าหมายที่กำหนด
ภาพรวมเบิกจ่ายแล้ว 3,273,967 ล้านบาท คิดเป็น 94.08% ของวงเงินงบประมาณ 3,480,000 ล้านบาท จำแนกเป็น
อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่ผลการเบิกจ่ายรายจ่ายลงทุนของปีงบประมาณ 67 ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย เนื่องจาก พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2567 ทำให้หลายโครงการไม่สามารถเบิกจ่ายได้ทันภายในปีงบประมาณ 67
อย่างไรก็ดี เม็ดเงินที่เหลือจะทยอยเบิกจ่ายลงไปสู่ระบบเศรษฐกิจได้ในช่วงไตรมาสที่ 1 และ 2 ของปีงบประมาณ 68
สำหรับมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 คณะกรรมการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายเงินภาครัฐได้กำหนดเป้าหมาย
ขณะเดียวกัน ได้กำหนดแนวทางให้หน่วยรับงบประมาณดำเนินการ ดังนี้
1. เร่งดำเนินการส่งเงินจัดสรรไปยังสำนักงานในส่วนภูมิภาคภายใน 5 วันนับแต่วันที่ได้รับอนุมัติเงินจัดสรร
2. เร่งรัดการก่อหนี้รายจ่ายลงทุน โดยรายการปีเดียว ให้ก่อหนี้ผูกพันภายในไตรมาสที่ 1 สำหรับรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณ ให้ก่อหนี้ผูกพันภายในไตรมาสที่ 2
3. เร่งรัดการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายด้านการฝึกอบรม ประชุม สัมมนา ให้สามารถเบิกจ่ายงบประมาณดังกล่าวได้ภายในไตรมาสที่ 2
นอกจากนี้ ให้กระทรวงต้นสังกัดกำกับติดตามการดำเนินงานของหน่วยรับงบประมาณอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การเบิกจ่ายและการใช้จ่ายเงินเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด และมีเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว