บรรยากาศสุดช็อกเกิดขึ้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อกลุ่มแรงงานไทยเกือบ 250 คน รวมตัวกันแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากถูกหลอกให้โอนเงินค่าดำเนินการเพื่อไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล แต่เมื่อเดินทางมาถึงสนามบิน กลับพบว่าไม่มีการจองตั๋วเครื่องบินตามที่ตกลงกันไว้
นางสลิลทิพย์ หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า ตนเองและบุตรชายถูกชักชวนให้ไปทำงานที่อิสราเอล โดยมีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ “ออย” เป็นคนติดต่อและรับโอนเงินค่าดำเนินการ ซึ่งมีจำนวนเงินสูงถึง 60,000 บาท หลังจากโอนเงินแล้ว ก็ได้รับการนัดหมายให้มาขึ้นเครื่องบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่เมื่อมาถึงก็พบว่าไม่มีเที่ยวบินตามที่บอกไว้ แต่พอมาถึงไม่พบว่ามีการจองตั๋วเครื่องบิน พอถาม นางสาวออย กลับได้รับคำตอบว่า ติดต่อคนที่รับงานและรับเงินไปไม่ได้ ซึ่งมีผู้เสียหายประมาณ 250 คน
ขณะที่นายธนายุทธ ผู้เสียหายอีกคนหนึ่ง เปิดเผยว่า ตนเองโอนเงินไปให้ “ออย” จำนวน 120,000 บาท โดยหลงเชื่อคำชักชวนที่ว่าจะได้เงินเดือนสูงถึง 70,000 บาทต่อเดือนที่อิสราเอล และมีคนรู้จักหลายคนที่เคยไปทำงานที่นั่นแล้ว โดยจะต้องเสียค่าใช้จ่ายรวมเงินกว่าสองแสนบาท ที่เหลือหักจากเงินเดือน ที่ตนเองหลงเชื่อใจ เพราะมีการบอกกันปากต่อปากว่า สามารถพาไปทำงานได้จริง มีคนเคยไปแล้วหลายคน จึงหลงเชื่อโอนเงินจำนวนดังกล่าวให้กับ นางสาวออยไป จนมีการนัดหมายให้มาเจอกันที่สนามบินสุวรรณภูมิในคืนนี้เพื่อเดินทาง ซึ่งตนเองก็มารอตั้งแต่เช้าจนใกล้ถึงเวลา กลับไม่มีไฟท์หรือตั๋วเครื่องบิน
ทางด้าน นางสาวออย ผู้ต้องสงสัย ได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเช่นกัน โดยให้การว่า ตนเองก็ถูกหลอกใช้ให้เป็นคนรับโอนเงินจากผู้เสียหายทั้งหมด โดยมีคนรู้จักชื่อ “ฟ้า” เป็นคนชักชวนให้ทำ และอ้างว่าทำงานในสถานทูตออสเตรีย ตนจะได้ค่าตอบแทนหัวละ 2,000 บาท ส่วนใครที่จะไปทำงานจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ตั้งแต่ 30,000 – 60,000 บาท หรือบางคนหนึ่งแสนถึงหนึ่งแสนห้าหมื่นบาท แล้วแต่ระยะเวลาที่จะอยู่ทำงานที่นั่น
ตนจึงเอาเรื่องราวดังกล่าวไปบอกกับญาติพี่น้องของตนว่า หากใครจะไปสามารถติดต่อเธอได้และโอนค่าใช้จ่ายผ่านเธอ ซึ่งพอมีเงินรายได้เข้ามา เธอก็จะเบิกเงินนั้น ฝากเป็นเช็ด พร้อมกับเอกสารต่างๆของผู้เสียหาย นัดมอบเช็ดและเอกสารให้กับ ฟ้า ซึ่งอ้างว่าทำงานในสถานทูตออสเตรียประจำประเทศไทย โดยทุกครั้งที่ผู้เสียหายโอนเงินเข้ามาผ่านบัญชี ตนเองก็จะเบิกเงินฝากเป็นเช็ดให้กับ ฟ้า และนัดมอบเช็คให้กับนางสาวฟ้าที่หน้าสถานทูตออสเตรีย เพราะฟ้าอ้างว่าทำงานอยู่ในสถานทูต
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมด และแนะนำให้ไปแจ้งความร้องทุกข์กับกองปราบปราม เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดต่อไป ขณะเดียวกัน ได้เตือนประชาชนให้ระมัดระวังการหลงเชื่อบุคคลที่ชักชวนให้ไปทำงานต่างประเทศ โดยไม่ผ่านหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ