SAPPE ลงขัน WORKPOINT ตั้ง WOPE ปั้น‘Eatertainment’

29 ส.ค. 2565 | 09:27 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ส.ค. 2565 | 16:38 น.

“ลูกอมครูเพ็ญศรี” บูม SAPPE ปิดดิล WORKPOINT ลงขันตั้งบริษัทใหม่ WOPE ลุยตลาดอาหารเครื่องดื่ม ดึงAsset WORKPOINT ปั้นโมเดลใหม่ ‘Eatertainment’ เตรียมคลอด2 โพรดักซ์เสริมทัพปลายปี

เป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่น่าจับตามองสำหรับการจับมือกันระหว่างยักษ์ใหญ่เจ้าตลาดเครื่องดื่ม Functional Drinkอย่าง‘บมจ.เซ็ปเป้’ หรือ SAPPE และ บิ๊กเนมวงการสื่อข่าวสาร/บันเทิงเมืองไทยบ ‘บมจ.เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์’ หรือ WORK ร่วมลงทุนในบริษัทร่วมทุนชื่อ บริษัท โวป จำกัด (WOPE Co.,Ltd.) เพื่อพัฒนา ผลิต ทำการตลาด และจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มผ่านนวัตกรรมและการสื่อสารที่โดนใจผู้บริโภค

SAPPE ลงขัน WORKPOINT ตั้ง WOPE ปั้น‘Eatertainment’

อย่างไรก็ตามความร่วมมือระหว่าง SAPPE และ  WORK ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะก่อนหน้านี้ทั้งคู่ได้จับมือกันคอลแล็บ “ลูกอมครูเพ็ญศรี” ในฐานะพาร์ทเนอร์มาก่อน ดังนั้นการจับมือกันครั้งนี้จึงเป็นการยกระดับความร่วมมือจากPartner เป็น strategy Partnerหรือ Synergy เข้าด้วยกัน

 

นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอาหารและเครื่องดื่มในประเทศไทยปัจุบันถือว่าดีขึ้นกว่าในช่วงครึ่งปีแรก โดยเฉพาะช่วงไตรมาส 1 ที่บรรยากาศอาจจะยังอึมครึม เพราะเพิ่งเปิดประเทศและนักท่องเที่ยวยังไม่กลับเข้ามาแต่ไตรมาส 2 มีการกระเตื้องขึ้นมาทำให้ภาพรวมเครื่องปีแรกเติบโตเล็กน้อย 1% ซึ่งคาดหวังว่าครึ่งปีหลังจากที่นักท่องเที่ยวเข้ามาจะทำให้ภาพรวมของตลาดดีขึ้นแต่อย่างไรก็ตามยังต้องติดตามค่าครองชีพที่สูงขึ้นกันต่อไป

นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE

สำหรับ เซ็ปเป้ เครื่องปีแรกยังคงรักษาการเติบโตค่อนข้างดีประมาณ 39% โดยการเติบโตหลักมาจากตลาดต่างประเทศ ส่วนภาพรวมในประเทศ เซ็ปเป้ อาจจะยังทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ที่ผ่านมาจึงมีโยกการผลิตส่วนใหญ่ไปซัพพลายตลาดต่างประเทศที่ขายดีกว่า สำหรับครึ่งปีหลัง บริษัทยังคงโฟกัสตลาดต่างประเทศเป็นตลาดหลัก และโฟกัสตลาดในประเทศมากขึ้นโดยในช่วงเครื่องปีหลัง เซ็ปเป้ มีการออกสินค้าใหม่ค่อนข้างมากขึ้นและมีแพลนจะออกสินค้าใหม่เพิ่ม 5-6 ตัว  หลังจากครึ่งปีแรกไม่มีสินค้าใหม่ออกสู่ตลาดเลย

 

 

 

รวมไปถึงการมองหาแหล่งรายได้ใหม่และการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ ซึ่งล่าสุด คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติให้ บริษัท เซ็ปเป้ โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SAPPE เข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ บริษัท ไทย บรอดคาสติ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WORK โดยร่วมลงทุนในบริษัทร่วมทุนชื่อ บริษัท โวป จำกัด (WOPE Co.,Ltd.) เพื่อพัฒนา ผลิต ทำการตลาด และจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มผ่านนวัตกรรมและการสื่อสารที่โดนใจผู้บริโภค โดย Sappe Holding เข้าถือหุ้นใน WOPE เป็นสัดส่วนร้อยละ 60 ใช้แหล่งเงินทุนจากกระแสเงินสดภายในกิจการ ขณะที่ THB ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 40 คิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวม 50 ล้านบาท

 

 โดยการร่วมมือครั้งนี้ เป็นการเพิ่มกลุ่มสินค้าใหม่ๆ ที่มีความแตกต่างออกไปจากกลุ่มสินค้าเดิม ซึ่งจะช่วยสร้างความแปลกใหม่ให้แก่ตลาด และยังเป็นการขยาย Portfolio ของสินค้าในประเทศอีกด้วย โดยตั้งเป้ายอดขายปีหน้า (ปี 2566) ของการร่วมมือครั้งนี้ที่ 200 ล้านบาท จากกลุ่มลูกอมครูเพ็ญศรีที่มีการวางจำหน่ายแล้ว และกลุ่มสินค้าใหม่อีก 2 กลุ่มที่กำลังจะออกจำหน่ายในช่วงปลายปีนี้และต้นปีหน้า

 

“ช่วงปีแรกมาจิ้นอาจจะไม่ได้เยอะสำหรับ WOPE  เพราะอยู่ในช่วงของการลงทุนในเรื่องของแบรนด์  การร่วมมือครั้งนี้จะทำให้เป้าหมายรายได้ของเซ็ปเป้เพิ่มขึ้นปีตอนนี้เราปรับเป้ายอดขายไปอยู่ที่ 30% แล้ว ตัวเลขคร่าวๆที่ตั้งไว้คือ 200 ล้านบาท ซึ่งรวมยอดขายของลูกอมครูเพ็ญศรีก่อนหน้านี้ด้วย แต่หลังจากนี้รายได้ของ ของครูเพ็ญศรี ลูกอมครูเพ็ญศรี จะถูกบุ๊คเป็นรายได้ของ ไปด้วยซึ่งก่อนหน้านี้ยอดของครูเพ็ญศรีจะอยู่ในรายได้ของ WOPE และจะมีสินค้าใหม่เข้ามาเสริมพอร์ต WOPE ให้แข็งแกร่งมากขึ้น” 

นายธนศักดิ์ หุ่นอารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WORK เปิดเผยว่า เวิร์คพอยท์มองหาโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจและมองหา partnerในการขยายธุรกิจมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง เซ็ปเป้ มีความรู้ความเข้าใจในตลาดFMCG ขณะที่WORKมีจุดแข็งในเรื่องของ ครีเอทีฟ คอนเทนต์ไม่ว่าจะเป็นในรูปของรายการทีวีและคาแรคเตอร์ต่างๆ โดยเฉพาะช่องทางการสื่อสารทุกแพลตฟอร์มทั้งออฟไลน์ ออนไลน์และออนกราวด์ทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายลูกค้าได้ทั่วประเทศ ทุกเพศ ทุกวัย ดังนั้นการร่วมมือกันครั้งนี้ซึ่งนำจุดแข็งมารวมกันเป็น WOPE เพื่อพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์และนำเสนอผ่านครีเอทีฟคอนเทนต์

 

“ ก่อนหน้านี้เรามีการร่วมมือกัน คือการเปิดตัว “ลูกอมครูเพ็ญศรี” ซึ่งเราได้ชิมลางตลาดเมื่อกลางปีที่แล้ว โดยใช้คาแรคเตอร์ที่เวิร์คพ๊อยซ์มีอยู่มาต่อยอดเป็นลูกอม ซึ่งแม้จะเปิดตัวในช่วงโควิดทำให้เราก็เผชิญทั้งในเรื่องของการล็อกดาวน์ วัตถุดิบ และซัพพลายเชนต่างๆ ทำให้ภาพรวมสะดุดไปบ้าง แต่ก็ประสบความสำเร็จได้ดี จากการตอบรับการเป็นอย่างดีและคนรู้จักได้ในระยะเวลาอันสั้น ทำให้เราจะมองเห็นโอกาสทางการตลาดว่าโมเดลแบบนี้น่าจะมีอนาคตสำหรับ product อื่นๆ ซึ่งตอนนี้เรามี 1-2 product ที่จะออกภายในปีนี้ เช่นกาแฟสำเร็จรูป โดยจะวางจำหน่ายในโมเดิร์นเทรดทุกที่”

 

นายอดิศักดิ์ รักอริยะพงศ์ รองประธานกรรมการ และประธานกรรมการบริหาร SAPPE กล่าวว่า การดำเนินงานภายใต้ WOPE จากนี้ SAPPE จะดูแลเรื่อง Innovation ของสินค้าตลอดทั้ง Supply Chain เพื่อให้ได้สินค้าที่แปลก แตกต่าง และส่งมอบให้ลูกค้าทั้งในประเทศและกลุ่มประเทศ CLMV โดยในอนาคตอาจขยายไปในกลุ่มลูกค้าของ SAPPE ประเทศอื่นๆ หากผลิตภัณฑ์ใดสามารถตอบโจทย์ประเทศนั้นๆ ด้วย ในขณะที่เวิร์คพอยท์ ดูแลเรื่องการสื่อสารและการตลาด ให้ไปถึงกลุ่มลูกค้าและเพิ่มความน่าสนใจในผลิตภัณฑ์ผ่านเครื่องมือต่างๆ ที่เวิร์คพอยท์มี นับเป็นการต่อยอดความเชี่ยวชาญและเรียนรู้ซึ่งกันและกันไปด้วย  

 

“เราพยายามเอา Asset ของเวิร์คพอยท์ไม่ว่าจะเป็นศิลปินในค่ายหรือบางรายการที่นำมาต่อยอดมาต่อยอดได้หรือสื่อที่ workpoint มีทั้งออฟไลน์และออนไลน์ต่างๆ เราจะนำมาต่อยอดในเรื่องของ creativeเป็นการสื่อสารการตลาดรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า ‘Eatertainment’ ให้ลูกค้าได้เสพความบันเทิงของเวิร์คพอยท์ ผ่านสินค้านวัตกรรมคุณภาพที่สร้างสรรค์โดยเซ็ปเป้ ซึ่งที่ผ่านมา workpoint พยายามที่จะออกสินค้าที่ไม่เหมือนใครอยู่แล้ว ดังนั้นเราจะออกสินค้าที่ยูนีคหรือไม่มีในตลาด แม้ว่ากำลังซื้อจะแผ่วแต่ถ้าสินค้าเรามีจุดขายชัดเจน เชื่อว่าจะมีคนให้ความสนใจเพราะราคาอาจจะไม่ใช้ทั้งหมดแต่ก็ยังมีส่วนกับบางช่องทางดังนั้นในปีหน้าเรามองในเรื่องของความร่วมมือและการมิติใหม่และการนำเสนอโพรดักซ์เป็นหลัก”