สร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการแฟชั่นไทย 2 ครั้งต่อเนื่อง กับแบรนด์กระเป๋า “คาร์ลิน” (CARLYN) แบรนด์ดังจากเกาหลี ที่สาวกไทยต้องมี
ปรากฏการณ์แรกที่ว่า คือการต่อคิวนานหลายชั่วโมงในวันวาเลนไทน์ เพื่อให้ได้เป็นเจ้าของ ทำเอาศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่แทบแตก
ปรากฏการณ์ที่สอง คือ การเปิดพรีออเดอร์ผ่านทางออนไลน์ที่ยอดจองกระเป๋า 5,000 ใบ หมดภายใน 11 นาที
ซึ่งความประหลาดใจนี้ไม่ใช่เกิดขึ้นกับวงการแฟชั่นรีเทลไทยเท่านั้น แต่สำหรับ “อลิเซีย ลี” ดีไซเนอร์เจ้าของแบรนด์ “CARLYN” ถึงกับเซอร์ไพร์สสุดๆ และกล่าวขอบคุณแบบไม่หยุด
“อลิเซีย ลี” ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการด้านการสร้างสรรค์ แบรนด์คาร์ลิน (Alicia Lee, CARLYN Founder & Creative Director) ให้สัมภาษณ์พิเศษในโอกาสที่มาเปิด “CARLYN POP UP BOUTIQUE” แห่งแรกในประเทศไทย ณ สยามดิสคัฟเวอรี่ ว่า
คอนเซปท์ของ CARLYN คือ Comfortable ถือแล้วสบาย จะเอากระเป๋าไปแขวน (หมายถึงถือกับชุดอะไร) ที่ไหน จะเป็นสูทก็สบาย จะเป็นชุดใสๆ น่ารักก็ได้ เพราะแบรนด์ถูกดีไซน์ให้แมทซ์กับทุกๆ ลุค เข้าได้กับทุกโอกาส
เธอเล่าว่า ดีไซน์อะไรต้องคิดก่อนว่า ใช้ง่าย สบาย ข้ามขีดจำกัดของราคา เลือกไซส์ เลือกแบบได้ จากเดิมที่เธอเคยคิดจะดีไซน์เสื้อผ้า แต่เธอไม่ได้ทำ และเลือกมาดีไซน์กระเป๋าแทน จึงเป็นจุดเริ่มต้นทำให้เกิดแบรนด์กระเป๋า CARLYN
“อลิเซีย” บอกว่า หลายคนเรียกกระเป๋าเธอว่า “กระเป๋าก้อนเมฆ” อาจจะเป็นเพราะรูปทรงที่เห็น แต่เธอบอกว่าความพิเศษของกระเป๋า CARLYN คือ การเลือกสรรวัตถุดิบที่พิเศษ การเคลือบป้องกันน้ำ ป้องกันสิ่งสกปรกได้ ทำให้การผลิตต้องใช้เวลา จึงเป็นที่มาว่าทำไมต้องพรีออเดอร์
อีกครั้งกระเป๋า CARLYN ก็ไม่ได้ฮอตเฉพาะในเมืองไทยเท่านั้น แต่ในเกาหลีก็ได้รับความนิยมอย่างมากเช่นกัน “อลิเซีย”เล่าให้ฟังว่า แม้แบรนด์ CARLYN จะเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2012 แต่เพิ่งได้รับความนิยมอย่างมากในปีที่ผ่านมา หลังจากศิลปินเกาหลีหลายคนใช้ ไม่ว่าจะเป็น Wendy จากวง Red Velvet และ Minnie วง (G)-IDLE เกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังของเกาหลีใต้
ขณะที่ในเมืองไทยเองก็มีศิลปิน นักแสดง นักร้อง รวมถึงเซเลปจำนวนมากที่ถือ จนเกิดเป็นกระแส รวมทั้งการที่คนไทยได้รับวัฒนธรรมเกาหลี ทั้ง K Pop ซีรีย์ รวมถึงอาหาร ฯลฯ ทำให้ชื่นชอบกระเป๋าของเธอตามไปด้วย
“ไม่คิดว่าคนไทยจะชื่นชอบ CARLYN ได้มากขนาดนี้ เธอประทับใจมากและต้องขอบคุณมากๆ”
แต่กว่าจะมีวันนี้ได้ เธอบอกว่า ก่อนหน้านี้ร้าน CARLYN ในเกาหลีมีมากถึง 6-7 สาขา รวมถึงในฮ่องกง แต่เมื่อเจอกับสถานการณ์เศรษฐกิจที่ผันผวน รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปหันไปใช้บริการทางช่องทางออนไลน์มากขึ้น เธอจึงปิดช้อปในฮ่องกง และในเกาหลีจนปัจจุบันเหลือเพียง 3 สาขาเท่านั้น
ซึ่งนอกจากประเทศไทยแล้ว สิงคโปร์ อินโดนีเซียและญี่ปุ่น จะเป็นตลาดต่อไปที่เธอจะเข้าไปลงทุน จากกระแสความนิยมที่เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน
“อลิเซีย” บอกว่า ด้วยเพราะกระแสนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ผนวกขั้นตอนการผลิตที่ละเอียดอ่อนทำให้ต้องเปิดพรีออเดอร์ ซึ่งลูกค้าจะต้องรอผลิต แม้วันนี้เธอจะลงทุนเพิ่ม เพื่อขยายกำลังการผลิต 2 เท่าตัว โดยผลิตได้มากถึง 6,000 ใบต่อวัน ก็ยังไม่เพียงพอกับดีมานด์ที่มี เธอจึงอยากขอร้องให้ลูกค้า รอหน่อย
อีกสิ่งหนึ่งที่ “อลิเซีย” และแบรนด์ CARLYN ต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้คือ สินค้า Copy ซึ่งกระแสความฮอตแน่นอนว่า ทำให้เกิดสินค้าลอกเลียนแบบจำนวนมาก ทั้งวางขายตามตลาดนัดและช่องทางออนไลน์
“อลิเซีย” บอกว่า เธอรับรู้ข้อมูลเรื่องสินค้า Copy มาระดับหนึ่งจากแฟนคลับที่ซื้อสินค้าของเธอ ซึ่งเธอได้มอบหมายให้ฝ่ายกฏหมายดำเนินการ และอยากขอร้องให้ลูกค้าเลือกซื้อสินค้าที่ถูกต้องและมีลิขสิทธิ์ ซึ่งราคาที่จำหน่ายในเมืองไทย ใกล้เคียงกับที่เกาหลีมาก ต่างกันเพียง 5% จากค่าขนส่งเท่านั้น ซึ่งนอกจากลูกค้าจะได้ของแท้ คุณภาพดี ในราคาคุ้มค่าด้วย
และขณะนี้เธออยู่ระหว่างการทำโปรเจ็คพิเศษ ที่จะทำกระเป๋าที่ copy ไม่ได้ เพราะผลิตจากวัตถุดิบพิเศษ และมีดีไซน์ที่เห็นโลโก้ของ CARLYN อย่างชัดเจน เพิ่มอิมเมจ และความเป็นลักชัวรี ทันสมัย พร้อมกับคอลเลคชั่นใหม่ออกมาต่อเนื่อง
สำหรับในตลาดเมืองไทย แม้จะเป็นการเปิดจำหน่ายผ่าน “CARLYN POP UP BOUTIQUE” ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. ที่ผ่านมา แต่ก็มีแบบให้เลือกมากถึง 40 แบบ และยังมีแผนจะทำเอ็กซ์คลูซีพ คอลเลคชั่นที่วางจำหน่ายเฉพาะสยามดิสคัฟเวอรี่ด้วย
และในอนาคตอันใกล้ ช้อปแรกของ CARLYN ในสยามดิสคัฟเวอรี่ก็จะเปิดให้บริการ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อกระเป๋า แอคเซสซอรี่ต่างๆของ CARLYN ได้อย่างเต็มที่
สุดท้าย “อลิเซีย” บอกว่า ขอบคุณคนไทยทุกคน และฝากให้ติดตามผลงานของเธอต่อไปด้วย