บริษัท คินน์ เวิลด์ไวด์ จำกัด ภายใต้แบรนด์ “คินน์” (KINN) ผู้นำโภชนเภสัช จับมือ รพ.พริ้นซ์ สุวรรณภูมิ สานต่อแคมเปญ “Nutraceutical Trend in Perfect Health โภชนเภสัช เทรนด์ใหม่ของการมีสุขภาพดีที่ยั่งยืนยุคดิจิทัล” หนุนคนไทยหันมาใส่ใจสุขภาพและตรวจสุขภาพเป็นประจำ หลังพบมีคนไทยเพียง 2% เท่านั้นที่ตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ
ขณะที่สถิติยอดคอเลสเตอรอลสูงในคนไทยยังพุ่ง ต้นเหตุป่วยเป็นโรคติดต่อไม่รุนแรงภัยเงียบคร่าชีวิตคนไทยสูงเป็นอันดับหนึ่ง โดยครอบครัวไทยกว่า 84,000 ครัวเรือน รับประทานอาหารกระตุ้นคอเลสเตอรอลสูงสุด 7 วันต่อสัปดาห์ เสี่ยงก่อโรคไม่ติดต่อแต่เรื้อรัง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงอายุ 30-70 ปี
นางสาวศิริพร อริยพุทธรัตน์ ประธานกรรมการบริหาร และผู้ก่อตั้ง บริษัท คินน์ เวิลด์ไวด์ จำกัด ผู้นำด้านโภชนเภสัช เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU ) ร่วมกับ โรงพยาบาล พริ้นซ์ สุวรรณภูมิ โรงพยาบาลในเครือ Principal Healthcare สานต่อแคมเปญ “Nutraceutical Trend in Perfect Health โภชนเภสัช เทรนด์ใหม่ของการมีสุขภาพดีที่ยั่งยืนยุคดิจิทัล”
เพื่อสร้างเครือข่ายโรงพยาบาลในการสนับสนุนผลักดันให้คนไทยให้ความสำคัญกับการดูแลใส่ใจสุขภาพมั่นตรวจเช็คสุขภาพอยู่เสมอ เพราะปัจจุบันพบว่ามีประชากรไทยประมาณ 2% เท่านั้นที่ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี และมีคนไทยเกือบ 60% ที่คิดว่าตนเองมีสุขภาพที่ดี ซึ่งพฤติกรรมนี้อาจทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพสะสมโดยที่ไม่ทราบสาเหตุ โดยเฉพาะ โรคไม่ติดต่อแต่เรื้อรัง หรือ Non Communicable Diseases (NCDs) เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันสูง โรคหลอดเลือดสมอง และโรคมะเร็ง เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งในประเทศ
ซึ่งมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมวิถีชีวิตเร่งรีบของคนในยุคปัจจุบัน ทำให้คนใส่ใจสุขภาพน้อยลง รับประทานอาหารไม่ได้คุณภาพ ไม่ชอบออกกำลังกายและขยับร่างกายน้อย จึงส่งผลให้ร่างกายมีปริมาณคอเลสเตอรอลสูง ซึ่งคอเลสเตอรอลเป็นต้นตอสำคัญนำไปสู่โรค NCDs ได้แก่ ภาวะไขมันในเลือดสูง ภาวะความดันเลือดสูง ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ภาวะน้ำหนักเกิน (โรคอ้วน) โดยกลุ่มเสี่ยงอยู่ในวัยตั้งแต่ 30-70 ปีสิ่งสำคัญนอกจากการปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน
นอกจากนี้สถิติเมื่อปี 2564 พบว่ากว่า 84,000 ครัวเรือน รับประทานอาหารกระตุ้นคอลเลสตอลรอล 3-7 ครั้งต่อสัปดาห์ เป็นกลุ่มอาหารไขมันสูงถึง 42% รองลงเป็นกลุ่มอาหารแปรรูป 39% เช่น เบเกอรี่ หมูยอ ไส้กรอก และกลุ่มเครื่องดื่มเติมน้ำตาล 19% ซึ่งก่อให้เกิดโรค NCD’s และยังพบว่าผู้สูงอายุกว่า 50% ป่วยเป็นโรคดังกล่าว
ดังนั้นแคมเปญที่ คินน์ร่วมกับโรงพยาบาลพริ้นซ์ฯ จึงสนับสนุนให้คนไทยห่างไกลโรคนำไปสู่ “สังคมสุขภาพดี อายุยืน” ลดปัญหา “สังคมอายุยืนแต่อุดมด้วยโรค” และเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ผลักดัน แบรนด์ KINN โภชนเภสัช ตัวช่วยดูแลสุขภาพเชิงป้องกันสำหรับคนทำงานและผู้สูงอายุ ซึ่งสารสกัดจากธรรมชาติ ปลอดสารเคมี
“วัตถุประสงค์ของความร่วมมือในครั้งนี้ เพื่อสนับสนุนให้คนไทยโดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุและวัยทำงาน ได้ตระหนักและระมัดระวังในพฤติกรรมการกิน ห่างไกลจากโรคไม่ติดต่อแต่เรื้อรัง ควบคู่การรับบริการตรวจเลือดจากโรงพยาบาลที่มีคุณภาพสูง น่าเชื่อถือและเข้าถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน ในการดูแลสุขภาพให้ห่างไกลจากโรค NCDs โดยมีเป้าหมายสร้างการรับรู้และเจาะกลุ่มเป้าหมาย คนวัยทำงาน ผู้สูงอายุ คนรักสุขภาพ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยง โรคไม่ติดต่อแต่เรื้อรัง ได้รู้จักและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ KINN Natto นอกจากนี้ยังร่วมวิจัยกับคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อศึกษาประสิทธิผลของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร คินน์ เรด ยีสต์ ไรด์ พาวเดอร์ และนัตโตะ เฟอร์เมนต์เต็ด พาวเดอร์ ต่อระดับไขมันในเลือด และการส่งเสริมสุขภาพด้านอื่นๆ”
ด้านนายแพทย์ตะวัน จิตต์จุฬานนท์ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาล พริ้นซ์ สุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า ผู้ป่วยโรคติดต่อเรื้อรังเป็นปัญหาสุขภาพอันดับหนึ่งของโลกและประเทศไทยและเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตมากกว่า70% ของการเสียชีวิตทั้งหมด และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี สาเหตุเกิดจากนิสัยหรือพฤติกรรมการดำเนินชีวิตที่ไม่ส่งเสริมการมีสุขภาวที่ดีจนมีคอเลสเตอรอลสูง
จากสถิติผู้เข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปีและกลุ่มลูกค้าเข้ามาตรวจในโรงพยาบาลพบจำนวนผู้มีคอเลสเตอรอลสูงเพิ่มขึ้น 50% โดยโรคกลุ่มนี้จะค่อยๆสะสมอาการ มีการดำเนินของโรคไปอย่างช้า ๆ แบบไม่รู้ตัว และรุนแรง หากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้องและทันเวลา จะมีผลกระทบอย่างมากต่อการดำเนินชีวิตของผู้ป่วย และคนรอบข้าง ฉะนั้นนอกจากการดูแลสุขภาพ การตรวจสุขภาพประจำปี หลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการก้าวสู่สังคมสูงวัยทำให้เทรนด์การดูแลสุขภาพเชิงป้องกันเติบโตเนื่องจากคนส่วนใหญ่ตระหนักว่าการมีสุขภาพที่ดี เป็นสิ่งสำคัญของการมีคุณภาพชีวิตที่ดี จากแนวโน้มดังกล่าวรพ.พริ้นซ์ เตรียมเปิดตัวศูนย์ Wellness center เพื่อต่อยอดการให้บริการดูแลสุขภาพองค์รวม
“ความร่วมมือครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการ กระตุ้นและส่งเสริมให้คนไทยหันตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพ การใช้ชีวิต เพื่อรักษาสุขภาพที่ดี นำไปสู่การลดจำนวนผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังของคนไทยให้ลดลง และสนับสนุนให้คนไทยมีสุขภาพที่ดี และอายุยืนอย่างมีคุณภาพ ไม่ใช่อายุยืนแต่อุดมไปด้วยโรค”