เปิดกลยุทธ์การตลาดครึ่งปี 67 "ซอฟเฟล" รุกเจาะ 3 กลุ่มเป้าหมาย ปักหมุดโต 15%

18 ก.ค. 2567 | 05:50 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ก.ค. 2567 | 08:07 น.

เปิดกลยุทธ์การตลาดครึ่งปี 67 "ซอฟเฟล" รุกเจาะ 3 กลุ่มเป้าหมาย ปักหมุดโต 15% ทั้งขยายสู่คนรุ่นใหม่ กลุ่มครอบครัว คนทำงาน ระบุประเทศไทยเป็นตลาดใหญ่สุดในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้

นางสาวเมนาท มีสมมนต์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ประจำประเทศไทย กลุ่มบริษัท เอเนซีส กรุ๊ป ผู้ผลิตสเปรย์และโลชั่นทากันยุงแบรนด์ซอฟเฟล เปิดเผยว่า กลยุท์การทำตลาดของบริษัทช่วงครึ่งปีหลังวางไว้ 3 กลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย  

  • ขยายตลาดสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยจัดแคมเปญรณรงค์ประชาสัมพันธ์เรื่องโรคไข้เลือดออกกับคนรุ่นใหม่ จัดกิจกรรมการประกวดสื่อรณรงค์ดิจิตัล กับคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ จัดให้มีการประกวดสื่อสร้างสรรค์รณรงค์ป้องกันโรคไข้เลือดออก ค้นหาไอเดียสุดเจ๋งของคนรุ่นใหม่ ช่วยให้คนไทยห่างไกลอันตรายจากไข้เลือดออก โดยในปี 2568 บริษัทจะมีการขยายผลการจัดแคมเปญรณรงค์ ฯ ดังกล่าว เข้าไปยังพื้นที่ของมหาวิทยาลัยต่างๆ มากขึ้น ด้วยการเปิดรับสมัครผลงานของนักศึกษาทุกคณะ ทุกมหาวิทยาลัย ไม่ได้ตีกรอบรับผลงานเฉพาะคณะนิเทศศาสตร์อย่างเดียว
     
  • ใช้สื่อการตลาดเฉพาะกลุ่ม โดยได้ออกภาพยนต์โฆษณาชุดใหม่ 3 เวอร์ชั่น เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหลักที่แตกต่างกันโดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มครอบครัวและเด็ก กลุ่มคนทำงาน และกลุ่มนักเรียนนักศึกษา 

เปิดกลยุทธ์การตลาดครึ่งปี 67 "ซอฟเฟล" รุกเจาะ 3 กลุ่มเป้า่หมาย ปักหมุดโต 15%

  • การสร้างความผูกพันกับแบรนด์ โดยการจัดกิจกรรมทางการตลาดผ่านวิธีการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับแบรนด์ ให้ผู้บริโภคได้เกิดความใกล้ชิดกับแบรนด์ ผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ นำเสนอผ่านกิจกรรมรูปแบบพิเศษโดยดึงนักแสดงรุ่นใหม่ ร่วมรณรงค์ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกิจกรรมช่วงครึ่งปีหลัง 2567 นี้ จะจัดกิจกรรมเชิงรุกเพื่อออกไปประชาสัมพันธ์ เช่น ในสถาบันการศึกษาระดับมัธยมศึกษาทั่วประเทศกับโครงการ English We Like และเดินสายรณรงค์เรื่องไข้เลือดออกตามแหล่งชุมชนต่างๆ ต่อไป      

นอกจากนี้ จะมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นขนาดใหม่ และกลิ่นใหม่ รวมถึงสูตรใหม่ที่เป็นแบบเจาะเฉพาะกลุ่มมากขึ้น รวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมอื่นเพิ่มในปี 2568 
 

ขณะที่บริษัทแม่ที่ประเทศสิงคโปร์กำลังพัฒนาเตรียมศึกษาสารสกัดต่างๆ  และ Packageing ให้มีส่วนผสมต่อการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมในอนาคตเพิ่มขึ้น

“ประเทศไทยซอฟเฟลเป็นตลาดที่ใหญ่สุดในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ รองลงมาคือประเทศอินโดนีเซีย ทั้งนี้ คาดว่าจากกลยุทธ์การทำตลาดดังกล่าว จะทำให้ผลประกอบการของบริษัทเติบโตได้ 15% ในปี 67"

นางสาวเมนาท กล่าวอีกว่า มูลค่าการตลาดด้านผลิตภัณฑ์ป้องกันยุงในปี 2566 มีมากกว่า 700 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตขึ้นถึง 20% เมื่อเทียบกับปี 2565