กลุ่มนคราธานีพร้อมเกิน100รับท่องเที่ยวปีกระต่าย"อีสานตอนบน1"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ นางธนภร  พูลเพิ่ม ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานอุดรธานี จัดประชุมเครือข่ายพันธมิตรด้านการท่องเที่ยว ปี 2566 "เที่ยวนคราธานีปีกระต่าย" ประกอบด้วยพื้นที่จังหวัดอุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ หรือกลุ่มนคราธานี ทุกภาคส่วน ตลอดจนส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน  เพื่อร่วมขับเคลื่อนการท่องเที่ยวตามแนวทางการส่งเสริมของรัฐบาล

ที่ประชุมได้พบปะแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น และหาแนวทางร่วมกันในการขับเคลื่อนส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยว ทั้งในระดับชุมชน จังหวัด และกลุ่มจังหวัด ในรูปแบบใหม่ ๆ สู่ปีแห่งการเริ่มต้นของการท่องเที่ยวอีกครั้ง( Amazing New Chapters) เพื่อพลิกโฉมด้านการท่องเที่ยว สร้างความมั่นใจในการเดินทาง ของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ  ให้เกิดการพักค้างสร้างการสร้างรายได้ ทั้งผู้ประกอบการและชุมชนในพื้นที่ กระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการหมุนเวียน 

รวมทั้งเตรียมพร้อมรองรับ”เที่ยววิถีใหม่ที่เปลี่ยนแปลง” โดยเฉพาะเตรียมการรองรับการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวคนจีน ที่คาดการณ์ว่าจะมีส่วนหนึ่งที่เดินทางทางมากับขบวนรถไฟจีน-ลาว หลังจากประเทศจีนประกาศ อนุญาตให้คนจีนสามารถเดินทางออกยอกประเทศได้ นอกเหนือจากนักท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขง ลาว กัมพูชา เวียดนาม 

นางธนภร กล่าวอีกว่า กลุ่มนคราธานี ซึ่งเป็นคัสเตอร์การท่องเที่ยวที่ประกอบด้วย จังหวัดอุดรธานี หนองคาย และบึงกาฬ ซึ่งอยู่ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 (กลุ่มสบายดี) มีแผนการส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่ทั้ง 3 จังหวัด ต้อนรับศักราชใหม่ พ.ศ.2566 ปีกระต่าย เตรียมพร้อมรองรับท่องเที่ยววิถีใหม่ที่เปลี่ยนแปลง ภายใต้เคมเปญ “ด้วยรักและผูกพัน จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน” 

"หลังผ่านพ้นวิกฤติเศรษฐกิจ อันเนื่องมาจากผลกระทบโรคโควิค-19 มีการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยว และล่าสุดจากการที่ประเทศจีน ประกาศอนุญาตให้คนจีนสามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ เมื่อวันที่ 8  มกราคม 2566 น่าจะเป็นปัจจัยที่ดี กับธุรกิจการท่องเที่ยวในส่วนของภาคอีสานตอนบน โดยมีปัจจัยเสริมจากการที่มีรถไฟจีน-ลาว ที่จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลง  

เพื่อเตรียมความพร้อม ในการต้อนรับการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจีน ที่จะเดินทางมารถไฟจีน-ลาว มาประเทศสปป.ลาว ส่วนหนึ่งก็จะเดินทางผ่านทางสะพานมิตรภาพแห่งที่ 1 (หนองคาย-เวียงจันทน์) เข้ามายังประเทศไทย ให้มีความพร้อมทุกด้าน ในระดับSHA และ SHA Plus  แต่อย่างไรก็ตามก็จะต้องอยู่ภายใต้มาตรการรักษาความปลอดภัยของกระทรวงสาธารณสุข และคณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัด และภายใต้นโยบายการท่องเที่ยวสีเขียว หรือ BCG Tourism Model 

โดยได้มีความร่วมมือกันบูรณาการร่วมกันทุกภาคส่วน ทั้งผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยว กิจการที่เกี่ยวข้องต่อเนื่อง ตลอดจนการท่องเที่ยวชุมชน ตามนโยบายการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน ของกระทรวงการที่องเที่ยวและกีฬา 

นางธนภร กล่าวถึงแผนการขับเคลื่อนส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวทั้งในพื้นที่ และการท่องเที่ยวเอาท์บาวด์ในระยะไตรมาสแรกของปี 2566 นี้ ว่า นอกจากการที่จะเร่งให้ปรับตัว ให้เข้ากับสถานการณ์ที่กำลังเปลี่ยนแปลงแล้ว ทางกลุ่มนคราธานี ก็ยังคงดำเนินการส่งเสริมการท่องเที่ยวทุกมิติ สายธรรมะ ธรรมชาติ และประเพณีวัฒนธรรม การท่องเที่ยวชุมชน ที่ประสบผลสำเร็จมาแล้ว ผสมผสานกับการท่องเที่ยววิถีเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม ให้เกิดความคล่องตัว ความสะดวกสบาย แก่นักท่องเที่ยว ให้เข้าสู่เป้าหมายของจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้ด้านการท่องเที่ยว   
 

ทั้งนี้ ผอ. ททท.สำนักงานอุดรธานี ย้ำ พร้อมเดินหน้าส่งเสริมการตลาด และการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวไปพร้อมกับพันธมิตรทุกภาคส่วน ซึ่งปัจจุบันสถานที่ท่องเที่ยวสามารถเชื่อมโยงตามเส้นทางที่น่าสนใ จและมีความหลากหลายในกิจกรรมการท่องเที่ยว อาศัยความร่วมมือของผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยว และทุกฝ่ายในพื้นที่ ที่พร้อมเป็นเจ้าบ้านที่ดี ในการต้อนรับนักท่องเที่ยว ให้เกิดความประทับใจ รวมถึงอยากเดินทางกลับมาเยี่ยมเราอีกครั้ง ให้รู้สึก ปลอดภัย อบอุ่น เติมเต็มทุกบรรยากาศ ไม่ว่าจะจากธรรมชาติ ธรรมะ วัฒนธรรมและเส้นทางแห่งศรัทธา ความน่ารักของวิถีชุมชน อาหารที่อร่อย ที่พักหลากหลายรูปแบบ เพราะที่นี่คือ นคราธานีเที่ยวได้ทั้งปี

“กลุ่มนคราธานี โดยความร่วมมือร่วมใจของผู้ประกอบการการท่องเที่ยว หน่วยงานราชการ เอกชน พร้อมแล้วที่จะเป็นเจ้าบ้านที่ดี และยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคน ที่จะเดินทางเข้ามาใช้บริการท่องเที่ยว ในพื้นที่ของกลุ่มนคราธานี ได้แก่จังหวัดอุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ และสามารถเชื่อมโยงไปยังพื้นที่ใกล้เคียง ได้อย่างสะดวกสบาย อบอุ่น”นางธนภรฯกล่าว