นายเปเป้ อรุณานนท์ชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท โลเคเนชั่น จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากประเทศไทยได้ยกเลิกการกักตัวสำหรับผู้ที่เดินทางเข้าประเทศ บริษัทจึงได้ทำการปรับปรุงเว็บไซต์ Locanation.com เพื่อเข้าแข่งขันในตลาด OTA (Online travel Agency) อย่างเต็มตัว พร้อมทั้งร่วมมือกับ บริษัท มัลติเทคโนโลยี เอ็กซ์เพิร์ต จำกัด พันธมิตรผู้ร่วมทุนรายใหม่ โดยเข้าร่วมถือหุ้นในสัดส่วน 15% จากมูลค่าบริษัท 100 ล้านบาท เพื่อเสริมประสิทธิภาพบริการให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้นครอบคลุมยิ่งขึ้น โดยกลุ่มเป้าหมายหลักของบริษัท คือนักท่องเที่ยวที่มีความถี่ในการเดินทาง แบ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวในประเทศไทย 80% นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 20% และคาดว่ายอดจองในปีนี้จะเพิ่มขึ้น 200% หรือมากกว่า 100 ล้านบาท
สำหรับแพลตฟอร์มโลเคเนชั่น(www.locanation.com) เป็นแพลตฟอร์มจองโรงแรมและบริการด้านการท่องเที่ยวของคนไทย ที่แตกต่างจากจาก OTA (Online travel Agency) อื่น ๆ ด้วยระบบ club membership รวมถึง virtual pre-travel และบริการที่หลากหลายครอบคลุมทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ทั้งการจองตั๋วเครื่องบิน การเดินทางประเภทอื่น การจองโรงแรม รถบ้าน เรือยอร์ช ฯลฯ และบริษัทสร้างมีจุดแข็งทางการตลาดด้วยระบบสมาชิก ซึ่งเมื่อสมัครเป็นสมาชิกแล้วจะได้รับสิทธิประโยชน์มากมาย ทั้งส่วนลดมากถึง 60% Cashback เงินคืนถึง 5% และ Special Voucher โดยตั้งเป้าไว้มากกว่า 100,000 ราย ภายในปี 2566 พร้อมมอบความสะดวกให้กับผู้ใช้ Locanation ด้วยบริการถึง 3 ภาษา คือ ไทย อังกฤษ และ จีน เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้าถึงได้ง่าย สะดวก พร้อมราคาสุดคุ้ม
แพลตฟอร์ม Locanation เริ่มต้นจากการให้บริการจองสถานที่กักตัวทางเลือกของภาครัฐตั้งแต่ปลายปี 2564 มาจนถึงกลางปี 2565 หลังจากประเทศไทยได้ยกเลิกการกักตัวสำหรับผู้ที่เดินทางเข้าประเทศ บริษัทจึงได้ทำการปรับปรุงเว็บไซต์ Locanation.com เพื่อเข้าแข่งขันในตลาด OTA
“Locanation ไม่ได้เป็นเพียงเว็บไซต์จองบริการด้านการท่องเที่ยว เราต้องการให้แพลตฟอร์มของเราเป็นชุมชนของผู้ที่รักในการเดินทาง ซึ่งสมาชิกจะได้รับข้อเสนอสุดพิเศษ สำหรับเที่ยวบิน โรงแรม และกิจกรรมต่าง ๆ ช่วยให้สมาชิกสามารถวางแผนวันหยุดพักผ่อนได้ง่ายๆ ในราคาย่อมเยา นอกเหนือจากนั้นยังมอบความรู้สึกเป็นเจ้าของ และความเชื่อมโยงกันระหว่างสมาชิกที่เป็นผู้คนที่รักการเดินทางท่องเที่ยวเช่นเดียวกัน” นายเปเป้ กล่าว
ส่วน “มัลติเทคโนโลยีฯ” เป็นบริษัทในเครือของ บริษัท เอ็ม วิชั่น จํากัด (มหาชน) ที่ให้ความสำคัญกับการการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับธุรกิจท่องเที่ยว และเป็นผู้ออกเหรียญ MVP Coin ซึ่งเป็น Utility Token ท่องเที่ยวเจ้าแรกในประเทศไทย ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับ e-voucher สามารถนำไปแลกใช้ประโยชน์กับบริการท่องเที่ยวต่าง ๆ